ฟันผุเสี่ยงโรคได้มากกว่าที่จะคาดเดาได้ ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็งตับอ่อน หรือแม้กระทั่งโรคอ้วนก็ด้วย !
อาการฟันผุที่ดูเหมือนเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่ไม่น่าร้ายแรงอะไร อาจมีรู้สึกเจ็บปวดบ้างแต่หากถอนฟันผุออกก็หายได้ เหตุผลนี้เลยทำให้คนไม่ค่อยใส่ใจอาการฟันผุกันมากนัก แต่รู้ไหมคะว่าเบื้องหลังอาการฟันผุน่ากลัวกว่าที่คิด เพราะนอกจากฟันผุอาจทำให้รากฟันเสียหายแล้ว ยังส่อถึงความเสี่ยงของ 7 โรคนี้ได้ด้วย
1. เบาหวาน
นักวิจัยจาก Columbia University's Mailman School of Public Health เผยผลศึกษากับผู้ทดลองที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานกว่า 9,296 คน และพบว่า ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก โดยเฉพาะโรคฟันผุมีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีปัญหาฟันผุหรือมีปัญหาสุขภาพช่องปากค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้นักวิจัยอธิบายว่า เชื้อแบคทีเรียจากฟันผุอาจนำมาซึ่งอาการอักเสบในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอาจส่งผลกระทบไปถึงความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
อีกทั้ง Pamela Mcclain จาก American Academy of Periodontology ยังบอกด้วยว่า การอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียจากฟันผุ อาจส่งผลกระทบกับระดับน้ำตาลในเลือดได้ทั้ง 2 ทาง คือ เมื่อเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตในร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือดอาจพุ่งสูง หรือในบางเคสอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ ดังนั้นร่างกายจึงควบคุมการหลั่งอินซูลินได้ยากกว่าปกติจนอาจเสี่ยงโรคเบาหวานได้นั่นเอง
2. โรคหัวใจ
เช่นเดียวกันกับโรคเบาหวาน การที่มีฟันผุอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายไปตามหลอดเลือด เป็นผลให้เลือดไหลเวียนเข้าหัวใจได้น้อย ตามมาด้วยอาการความดันโลหิตสูง ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงโรคหัวใจแล้ว การที่เลือดไหลเวียนไม่คล่องตัว ก็อาจทำให้คราบพลัคและไขมันเกาะติดอยู่ตามผนังหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงโรคสโตรค เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาตได้อีกต่างหาก
และแม้ว่าโรคหัวใจอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมสิงห์อมควัน การรับประทานอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย และปล่อยให้น้ำหนักเกินร่วมด้วย ทว่าอาการฟันผุก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม เพราะตามสถิติจาก WebMd ผู้ป่วยโรคหัวใจกว่า 91% มักจะมีโรคฟันผุติดตัวอยู่ด้วยนะคะ
นอกจากนี้ทาง ทันตแพทย์หญิงนฤมล ทวีเศรษฐ์ งานทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังเผยว่า เชื้อสเตร็ปโตคอคคัส ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการฟันผุ ยังเป็นเชื้อเดียวกับที่ตรวจพบในโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบ และลิ้นหัวใจอักเสบอีกด้วย
3. เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด พัฒนาการของลูกด้อยกว่าปกติ
ผลการศึกษาเมื่อปี 2001 พบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาฟันผุในช่วงสัปดาห์ที่ 21-24 ของการอุ้มท้อง จะมีความเสี่ยงครรภ์ผิดปกติมากถึง 4-7 เท่า เมื่อเทียบกับหญิงตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพช่องปากดี และส่วนใหญ่มีแนวโน้มคลอดก่อนสัปดาห์ที่ 37 ของการตั้งครรภ์ อีกทั้งน้ำหนักทารกแรกเกิดอาจต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอีกด้วย
ยิ่งโดยเฉพาะแม่ตั้งครรภ์ที่ปล่อยให้ฟันผุอยู่นาน ๆ เชื้อโรคจากฟันผุอาจแทรกซึมผ่านเส้นเลือดไปถึงทารกในครรภ์ ทำให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับปอด หัวใจ และกระทบมาถึงพัฒนาการของเด็กได้ เพราะอย่าลืมว่าเลือดของคุณแม่ก็ส่งตรงเข้าไปหล่อเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์นะคะ
4. ปอดติดเชื้อ
แค่ฟันผุจะเสี่ยงโรคปอดติดเชื้อได้ยังไง คำตอบอยู่ที่ว่า แอนอานาโรป (Ananarob) หรือเชื้อโรคในฟันผุ จะเข้าไปปนกับน้ำลายและกระจายมายังปอดผ่านการกลืน หรืออาการสำลักน้ำลายในขณะหลับ ทำให้เกิดหนองในปอด ซึ่งคนที่เสี่ยงจะเป็นโรคนี้ นอกจากจะมีฟันผุแล้ว ยังอันตรายมากในผู้ที่ฟันผุแล้วดื่มแอลกอลฮอล์ เนื่องจากเชื้อแอนอานาโรป เป็นเชื้อที่ไม่พึ่งออกซิเจน และจะทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ ทำให้ปอดเป็นหนองหลาย ๆ จุด เกิดน้ำท่วมปอด อาการรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า และรักษาค่อนข้างยาก
5. โรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุนและอาการฟันผุมีความเกี่ยวข้องกันในส่วนที่ทำให้มวลกระดูกหาย โดยเฉพาะหากปล่อยให้เชื้อแบคทีเรียจากฟันผุกัดกร่อนกระดูกกรามและฟัน มวลกระดูกจากแขน และขาอาจต้องเดือดร้อนกระจายมวลกระดูกมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดนี้ จนส่งผลให้ส่วนนั้น ๆ เกิดภาวะขาดมวลกระดูกได้ ทั้งนี้นักวิจัยยังบอกด้วยว่า เพศหญิงที่ฟันผุอาจเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากกว่าเพศชายด้วยนะคะ
6. มะเร็งตับอ่อน
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ National Cancer Institute ระบุว่า กลุ่มอาสาที่มีอาการฟันผุเรื้อรัง มีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับอ่อนมากขึ้น ยิ่งกับกลุ่มอาสาที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ กลุ่มนี้ความเสี่ยงโรคมะเร็งตับอ่อนจะเพิ่มสูงเป็นเท่าตัว
โดยนักวิจัยอธิบายว่า ภาวะฟันผุเรื้อรังจะทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรังไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างกายเกิดสารก่อมะเร็งไปโดยปริยายด้วยนั่นเอง
7. โรคอ้วน
การศึกษาจาก 2 สถาบันบอกตรงกันว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างโรคฟันผุ มีผลให้ร่างกายไวต่อไขมันมากกว่าปกติ และอาจนำไปสู่โรคอ้วนได้
ย้ำกันอีกทีว่าโรคฟันผุร้ายแรงกว่าที่คิดนะคะ และเมื่อรู้ว่าฟันผุจะก่อความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ได้อย่างนี้แล้ว ก็คงจะถึงเวลาที่เราจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากให้มากขึ้น และอย่าลืมดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกันด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ครอบครัวข่าว3,เดรินิวส์
WebMd
Everyday Health