ช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาวต่างๆ ผู้คนที่มาทำงานในเมืองหลวงก็มักจะอาศัยช่วงเวลานี้เดินทางกลับบ้าน พ่อแม่ ภรรยา และลูกๆ ของพวกเขาเหล่านั้นต่างเฝ้ารอการกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ นักเดินทางส่วนใหญ่ก็มักจะเตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างสวัสดิภาพ เช่น เช็คเครื่องยนต์ ล้อ อุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เมื่อขับรถก็จะขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับเร็ว ไม่ดื่มสุรา เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร นักเดินทางเหล่านั้นก็ยังหนีไม่พ้นการประสบอุบัติเหตุ บางรายก็ถึงแก่ชีวิต บางรายก็พิการ ด้วยสาเหตุที่คาดไม่ถึงและมักจะไม่มีใครกล่าวถึง สาเหตุนั้นคือการ “หลับใน” นั่นเอง
วิธีการที่ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่รัฐบาลและองค์การต่างๆมักจะออกมารณรงค์อย่างสม่ำเสมอ นั่นคือ “การเมาไม่ขับ” แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ยังถูกมองข้ามความสำคัญ แต่มีอันตรายถึงชีวิตนั่นคือ “การหลับใน” ขณะขับ และตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการหลับในขณะขับรถ คือ “เครื่องปรับอากาศในรถยนต์” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “เส้นผมบังภูเขา” ที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไป
ทุกๆครั้งที่โดยสารรถปรับอากาศ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้เรารู้สึกสบาย ทั้งคนนั่งและคนขับ แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้การขับขี่รถยนต์ปลอดภัยขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันรถและเดินทางไกลเป็นเวลาหลายชั่วโมง ความเย็นไม่ได้ช่วยเพิ่มออกซิเจนภายในรถ ในทางกลับกันในที่แคบๆทุกคนแย่งอากาศกันหายใจ และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าใส่กัน เมื่อระดับออกซิเจนในเลือดลดลงจึงทำให้ผู้โดยสารและคนขับรู้สึกง่วงนอนจนอาจหลับใน และนำไปสู่อุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงได้
ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้ภาครัฐและทุกๆภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ซึ่งควรจะมีการติดตั้งตัวกรองอากาศที่มีสารเคมีคอยดักจับสิ่งเป็นพิษเช่นเดียวกับหน้ากากของนักดับเพลิง โดยสามารถกรองอากาศให้สะอาด ไม่มีกลิ่นเข้ามาในรถและมีอากาศที่บริสุทธิ์ในห้องโดยสารได้ นอกจากนี้ ควรรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนโดยให้ ผู้ขับขี่เปิดกระจกหรือเปิดช่องให้อากาศภายนอกเข้ามาในรถได้เป็นระยะๆระหว่างขับรถ เพื่อให้อากาศถ่ายเทและมีออกซิเจนเพิ่มขึ้นเพื่อลดการหลับในของคนขับ
สิ่งสำคัญอีกประการที่ไม่ควรมองข้ามคือ เรื่องความสกปรกภายในห้องโดยสาร สังเกตได้จากการที่ผู้โดยสารเหยียบของสกปรกต่างๆ และนำเข้ามาติดอยู่บนพรมในรถ หรือผู้โดยสารที่ไม่สบายไอ จามกันอยู่ในรถทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะรถโดยสารปรับอากาศ อาทิเช่น รถทัวร์ รถตู้ รถแท๊กซี่ เป็นต้น ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีการทำความสะอาดพรมและเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บสะสมเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคอย่างร้ายกาจ ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าเกี่ยวข้องควรร่วมกันสร้างมาตรการต่างๆ ให้รถรับจ้างสาธารณะทั้งหลายได้มีการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและพื้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกัน “โรคติดเชื้อทางอากาศพิษ” ซึ่งจะมีมากเช่นเดียวกับ “โรคติดเชื้อทางกระแสโลหิต” ดังนั้นทุกคนจึงควรร่วมมือกันทั้งภาครัฐและประชาชนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุและอุบัติภัยบนท้องถนน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่คนทุกคนสามารถทำได้ เพื่อช่วยกันลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น