แน่นอนว่าหากใครที่ได้มาเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะต้องนึกถึง ทะเลเป็นอันดับต้นๆ แต่วันนี้เราไม่มีทะเลมาฝากทุกคนหรอกนะคะ ฮ่าๆ แต่จะเป็นที่ไหนบ้างไปลุยกันเลยดีกว่า
เริ่มจากที่นี้ก่อนแล้วกัน นี้คือ หินพัด สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น สามารมองได้หลายมุม อยู่ที่จิตนาการของแต่ละคน บ้างคนมองเป็นรูปหัวใจ บ้างคนมองว่าคล้าย “พระธาตุอินแขวง” ในประเทศพม่า
และกิจกรรมต่อมาคือ การล่องแพไม้ไผ่ ที่ คลองศกแบมบูราฟ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สโลไลฟ์แบบสุดๆ เพราะเราจะได้ชื่นชมธรรมชาติระหว่าสองฟากฝั่งที่เงียบสงบ
ได้ยินเพียงเสียงน้ำไหลและหริ่งหรีดเรไร พร้องยังมีจุดพักให้เราได้ลิมลองชิมชา กาแฟ ด้วยแก้วธรรมชาติที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ระหว่างทางอีกด้วย
การได้มาเยือนเขาศกครั้งนี้ของเราสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ บัวผุด ดอกไม้มหัศจรรย์ที่หาชมได้ยากมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่า เพราะ เจ้าดอกบัวผุดนั้น ปีหนึ่งจะบานแค่ครั้งเดียวและเมื่อบานแล้วจะมีอายุอยู่ได้แค่ 4-5 วันเท่านั้น
เช้าวันต่อมากับบรรยากาศยามเช้าที่สดใส่ แสนชดชื่น ดีต่อกายและดีต่อใจนั้น หากใครที่มาเยือนถิ่นอุทยานแห่งชาติเขาศก
แล้วไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือการแวะชม พระอาทิตย์ขึ้น กันที่ ผานางคอย บ้างวันอาจจะสายหมอกให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย
หากใครที่ชอบเข้าวัด ทำบุญ ปฏิบัติธรรม ต้องที่นี้เลยคะ อุทยานธรรมเขานาในหลวง สถานที่ปฏิบัติธรรม สักการะรอยพระพุทธบาท
ที่ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขาอันแสนงดงาม เรียกได้ว่าอิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งใจกันเลยทีเดียว
สถานีต่อไปของเราคือ เขื่อนรัชชประภา หรือชื่อเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ประกอบด้วยยอดเขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมามากมาย จนได้รับฉายาว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย"
สำหรับที่พักของการเดินทางครั้งนี้คือ แพคีรีธารา กับบรรยากาศเงียบสงบไร้สัญญาณโทรศัพท์ แต่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติแบบ 360 องศา
หลังจากเล่นน้ำกันให้ชื่นฉ่ำ ซุ่มสวยกันแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งจุดคือการล่องเรือชมแสงอัสดงของพระอาทิตย์ ดีต่อใจและกายจนไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว
หลังจากกลับขึ้นฝั่งกันแล้ว สถานที่ต่อมาซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขื่อนเชียวหลานอีกหนึ่งแห่งที่เราอยากจะแนะนำนั้นก็คือ ภูเขารูปหัวใจ และสะพานแขวนเขาพัง อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
ก่อนเดินทางกลับอย่าลืมแวะสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีกันก่อนนะคะ ซึ่งการก่อสร้างศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี
เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539
และเพื่อความเป็นศิริมงคล เป็นหลักชัยละมิ่งขวัญรวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี