ก่อนเข้าฤดูฝนควรดูแล ชุดที่ปัดน้ำฝน ซึ่งประกอบด้วย น้ำฉีดกระจก ควรตรวจสอบและเติมให้เต็มอยู่เสมอ จากนั้นให้ทำความสะอาดใบปัดด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำ ทดลองฉีดน้ำฉีดกระจกหน้า แล้วสังเกตดูว่าน้ำที่ฉีดออกมานั้นอยู่ในระดับกลางของกระจกทั้งซ้าย-ขวาหรือไม่ และดูว่าก้านปัดน้ำฝน สามารถปัดน้ำได้หมดจดโดยไม่มีคราบน้ำหรือไม่ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยเมื่อต้องขับรถขณะฝนตกคือ ยางรถยนต์ ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานปกติอยู่ที่ 2-3 ปี หากจำนวนปีที่ใช้เกินกว่า 2-3 ปี ก็ควรตรวจสอบว่าร่องยางยังมีความลึกตามกำหนดหรือไม่ เพราะร่องยางทำหน้าที่เก็บและรีดน้ำออกจากหน้ายาง ถ้าร่องยางตื้นจะรีดน้ำออกจากหน้ายางได้ช้าลง อาจทำให้มีน้ำคั่นระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน ส่งผลให้รถเกิดอาการเหินน้ำและสูญเสียการทรงตัวได้ ต่อมาคือ สัญญาณไฟ ต้องตรวจสอบว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ เพราะในยามฝนตกให้เปิดไฟหรี หรือไฟหน้าแบบต่ำโดยไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน แม้จะตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่างว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว ก็ไม่ควรประมาทหรือชะล่าใจ เมื่อฝนตกควรใช้ความเร็วต่ำ และทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสการขับชนท้าย และเพื่อลดละอองน้ำจากรถคันหน้าดีดใส่กระจกหน้า ในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ ผิวถนนจะลื่นมาก เพราะน้ำฝนจะทำให้ฝุ่นกลายเป็นโคลนลื่น ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย