ประการที่ 5 การตรวจการทำงานของคลัตซ์ ที่จะแนะนำนี้เป็นวิธีการหนึ่งของการตรวจสภาพการทงานของคลัตซ์ว่าปรกติหรือไม่
ประการแรก ตรวจคลัตซ์ลื่น วิธีการก็ไม่ยาก ดึงเบรกมือขึ้นให้สุด แล้วสตาร์ตเครื่องเข้าเกียร์ในตำแหน่งเกียร์สูงสุด ถ้าเป็นแบบ 5 เกียร์ ก็เข้า เกียร์ 5 ถ้า 4 เกียร์ ก็เข้าเกียร์ 4 แล้วออกรถในเกียร์ดังกล่าว โดยเร่งเครื่องปล่อยคลัตซ์เพื่อให้รถวิ่ง ถ้าผลปรากฎ ออกมาว่ารถไม่ขยับเขยื้อนแต่เครื่องยนต์ไม่ดับ ก็แสดงว่าคลัตซ์ลื่นครับ อีกประการหนึ่งให้ทดลองออกรถตามปกติ เช่น พบว่ารถจะสั่งเมื่อเริ่มออกรถทุกครั้ง หลังจากรถลุยน้ำหรือลุยฝนมา นี่ก็แสดงว่าคลัตซ์ลื่นเช่นกัน อย่างนี้จะต้องนำรถไปปรึกษาช่างแล้วหล่ะ
ประการที่ 6 คือ ตรวจเบรกว่าปัดเป๋กินซ้ายหรือกินขวา การตรวจเบรก
ท่านเองก็ทำได้สบายมาก เพียงหาที่ว่าง หรือถนนว่างเพื่อลองเบรก โดยถนนจะตัดได้ระดับลมยางและดอกยางถูกต้องใกล้เคียงกัน วิธีการตรวจให้ขับรถด้วยความเร็วประมาณ 40 กม./ชม. ตั้งพวงมาลัยให้ตรงไปข้างหน้า มือไม่ต้องจับพวงมาลัย แล้วเหยียบเบรกทันทีทันใด ถ้ารถปัดเป๋ไปข้างใดข้างหนึ่งก็แสดงว่าระบบเบรกมีปัญหา อาจเกิดจากการติดตายเพราะน้ำเข้า หรือเกิดการรั่วซึมในระบบ กรณีนี้ต้องรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการเบรดโดยด่วน อย่าลืมว่า "เบรก คือ ชีวิต"
ประการสุดท้ายของการตรวจสภาพรถทั่วไปของรถหลังฝน คือตรวจระยะฟรีพวงมาลัย
ซึ่งวิธีการตรวจนั้นง่ายมาก ให้ท่านจับพวงมาลัยแล้วออกแรงที่มือเบาๆ หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายหรือขวาในตำแหน่งระยะฟรี ถ้ารัศมีของระยะฟรีมาก เช่น เป็นครึ่งรอบ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ผู้ขับบังคับรถยาก เพราะในบางคันหมุนพวงมาลัยไปครึ่งรอบหน้ารถจึงจะมีปฏิกริยาตอบสนองเกิดจะต้องเลี้ยวอย่างฉับพลันคงจะเลี้ยวไม่ทันผลที่ตามมาคือต้องเฉี่ยวชนกัน "อันตราย" ควรรีบนำรถไปให้อู่ซ่อมบริการ