ไส้กรองน้ำมัน เชื้อเพลิง ( Fuel filter)
น้ำมันเชื้อเพลิงใช่ว่าจะสะอาดเสมอไป โอกาสที่น้ำมันเชื้อเพลิงจะสกปรกมีอยู่มากมาย เช่น มีสนิม และสิ่งสกปรกปะปนอยู่ในถังเก็บน้ำมันในปั๊มน้ำมันหรือในถังน้ำมันของรถเอง หรือช่วงที่รถสะเทือนมีการเอียงตัวก็ทำให้ตะกอนก้นถังลอยขึ้นมาปะปนกับ น้ำมันเชื้อเพลิงได้ ถ้าเราไม่มีการป้องกันตะกอนและสิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะไปอยู่ตามท่อทางเดิน น้ำมันทำให้หัวฉีดหรือนมหนูในคาร์บูเรเตอร์เสียหายจากการเสียดสี หรือถ้ามีสิ่งสกปรกมีขนาดใหญ่อาจจะทำให้เกิดการอุดตันได้ และหากสิ่งสกปรกสามารถหลุดลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ ก็อาจเป็นอันตรายต่อลูกสูบ แหวนหรือกระบอกสูบได้ ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงจึงมีหน้าที่ดักสิ่งสกปรกเหล่านี้เอาไว้
ไส้กรองน้ำมันเชื้อ เพลิง แบ่งเป็น 2 ชนิด ตามประเภทเชื้อเพลิงที่ใช้
ไส้กรองน้ำมันเบนซิน
จะใช้กับเครื่องเบนซินส่วนใหญ่ทำด้วยกระดาษกรองพับเป็นครีบสำหรับ เครื่องคาร์บูเรเตอร์รุ่นเก่า เปลือกนอกของตัวกรองมักจะเป็นพลาสติกธรรมดา บางตัวก็เป็นพลาสติกสีขุ่น ส่วนพวกเครื่องเบนซินรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบหัวฉีด ซึ่งมีแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงสูงประมาณ 3 ber เปลือก นอกที่เป็นไส้กรองพลาสติก อาจจะไม่แข็งแรงทนทานและเกิดการแตกหักชำรุดเสียหายได้ ผู้ผลิตจึงใช้โลหะมาทำเปลือกหุ้มแทนพลาสติก เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นไส้กรองของเครื่องเบนซินระบบหัวฉีดตัวนี้มี ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ไส้กรองละเอียด” เพราะจะมีตัว “กรองหยาบ” หรือ “ไส้กรองหยาบ” อีกตัวอยู่ที่ปั๊มในถังน้ำมันซึ่งจะคอยกรองสิ่งสกปรกไว้ชั้นนึง ก่อน และด้วยการที่เป็นไส้กรองหยาบโอกาสอุดตันจึงมีน้อย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือดูแลรักษาเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นก็ควรหมั่นเติมน้ำมันให้เต็มถังเข้าไว้ ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันลดต่ำลงมากเกินไป เพื่อลดอัตราการเป็นสนิมของถังน้ำมันลดการเกิดน้ำและลดการฟุ้ง กระจายของตะกอนก้นถัง
ไส้กรองน้ำมันดีเซล
ไส้กรองแบบนี้ใช้กับเครื่องดีเซลซึ่งมักจะเรียกกันว่า “กรองดักน้ำ” เพราะนอกจากกรองสิ่งสกปรกใน น้ำมันเชื้อเพลิงแล้วยังกรองหรือดักน้ำที่ปะปนมากับน้ำมันดีเซลด้วย เมื่อไส้กรองเก็บกักน้ำเอาไว้จนเต็ม จะมีเสียงเตือนให้เจ้าของรถทราบและต้องมาเปิดก๊อกด้านใต้ เพื่อปล่อยน้ำทิ้งไป ไส้กรองพวกนี้แม้จะมีอายุการใช้งานยืนยาวแต่ก็ต้องมีการเปลี่ยนใหม่ด้วย เหมือนกัน ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงมีหน้าที่เก็บกักป้องกันสิ่งสกปรกเล็ดลอดออกไป แต่เมื่อสะสมเอาไว้เยอะก็ย่อมเกิดการอุดตันขึ้นได้ ทำให้การส่งน้ำมันขาดตอนหรือแรงดันลดลงไม่สามารถป้อนเชื้อเพลิงให้กับ เครื่องยนต์ได้ดี เท่าที่เครื่องยนต์ต้องการ ทำให้เกิดอาการเครื่องยนต์สะดุดกำลังตก เร่งรอบไม่ขึ้นเราจึงควรมีการเปลี่ยนไส้กรอง ตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในคู่มือประจำรถหรือน่าจะเปลี่ยนประมาณปีละ 1 ครั้ง
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
ไส้กรองชนิดนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งกับอายุการใช้งานของ เครื่องยนต์ เพราะมีหน้าที่กรองหรือป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือเศษโลหะที่เกิดขึ้น จากการเสียดสีและสึกหรอของเครื่องยนต์ย้อนกลับไปทำอันตรายต่อเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยืนยาวขึ้น
ไส้กรองน้ำมันเกียร์
การดูแลรักษาเกียร์อัตโนมัติ ความสำคัญอยู่ที่คุณภาพ และความสะอาดของน้ำมันเกียร์ จึงต้องมีการเปลี่ยนถ่ายกันตามกำหนดระยะเวลา และเนื่องจากการใช้งานของเกียร์อัตโนมัตินั้นแผ่นผ้าคลัทซ์จะสึกหรอ และเกิดสิ่งสกปรกชิ้นเล็ก ๆลอยปะปนอยู่กับเกียร์ หากเข้าไปอุดตันอยู่ในชุดกล่องสมองเกียร์จะเกิดปัญหาได้ ดังนั้น รถบางรุ่นจึงมีตัวกรองน้ำมัน เพื่อจัดการเก็บสิ่งสกปรกเหล่านี้เอาไว้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จึงควรเปลี่ยนแผ่นกรองนี้พร้อมกันด้วย