วิธีที่โจรใช้โจรกรรมรถยนต์
ก่อนโจรกรรม ฝ่ายโจรกรรมรถ หรือ แก๊งค์ หรือ คนร้ายลักรถจะต้องทราบ ความต้องการ ของฝ่ายผู้สั่งซื้อ หรือนายหน้าส่งออก ว่าต้องการรถอะไร ยี่ห้อ รุ่น ขนาด สี หรือที่เรียกกันว่า "ใบสั่ง" ฝ่ายโจรกรรมรถ ก็จะออกตระเวน ไปในที่ต่าง ๆ เพื่อหารถตาม ใบสั่ง ส่วนมาก จะหาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพราะมีรถตามที่ต้องการมาก วิธีการโจรกรรม มีอยู่หลายวิธี ทั้งวิธีการเก่าๆ และที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ ผสมผสานกัน หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนร้ายได้ศึกษาวิธีการ และกลไกการป้องกัน การโจรกรรมรถ ของเจ้าของ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ทุกวิถีทาง วิธีการโจรกรรมรถของคนร้าย พอประมวลได้ดังนี้
งัดหูช้าง : คนร้ายจะใช้เครื่องมืองัดหูช้างออก แล้วเอามือล้วงเข้าไปเปิดสลักหรือค้นล็อกประตู เปิดประตูรถเข้าไป แล้วใช้ไขควงงัดกระปุกกุญแจสตาร์ทออก ต่อไฟตรง เพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป
ใช้กุญแจปลอม : คนร้ายจะทำกุญแจเลียนแบบกุญแจของรถชนิดที่ต้องการลัก ไว้หลาย ๆ ขนาด (รอยหยัก) แล้วเลือกลองใช้ทุกดอกที่ทำไว้ ถ้าเปิดประตูรถได้ คนร้ายก็จะเปิดประตูแล้วติดเครื่องยนต์ขับหลบหนีไป
ลอกแบบกุญแจ : คนร้ายจะใช้วิธีสร้างความสนิทชิดชอบกับเด็กบริการล้างอัดฉีดรถ ตามสถานบริการจำหน่ายน้ำมัน แล้วว่าจ้างให้เอาดินน้ำมัน พิมพ์แบบกุญแจรถของจริง ตามที่มีผู้สั่งซื้อไว้ โดยมีค่าจ้างในการจัดทำ คันละ 200 - 250 บาท โดยเด็กบริการล้างอัดฉีด จะเก็บแบบพิมพ์กุญแจดินน้ำมัน พร้อมจดหมายเลขทะเบียน รถคันนั้น ไว้ให้ด้วย ต่อจากนั้น คนร้ายจะไปว่าจ้าง ร้านทำกุญแจทั่วไป ทำกุญแจปลอมตามแบบพิมพ ์ในราคาดอกละ 10 - 20 บาท เมื่อได้กุญแจแล้ว ก็จะออกตระเวน ติดตามรถคันดังกล่าว เพื่อโจรกรรม
สร้างกุญแจ : คนร้ายจะทำกุญแจในแบบและรูปทรงต่าง ๆ โดยไม่มีรอยหยัก ของรถตามชนิดที่ต้องการ (ระบุไว้ในใบสั่งซื้อ) แล้วเอาน้ำหมึกอินเดียอิ้งค์สีดำ ทาไว้ปล่อยให้แห้งสนิท เมื่อพบรถที่ต้องการ คนร้ายจะเอากุญแจแบบรูปทรงที่ทำไว้ สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ แล้วบิดหมุน เพื่อให้เกิดร่องรอย ที่น้ำหมึกอินเดียอิ้งค์ ดึงเอากุญแจออก นำไปเซาะร่อง ตามรอยที่ปรากฏอยู่ เมื่อวัดทำกุญแจเรียบร้อยแล้ว คนร้ายก็จะออกติดตามรถคันนั้น เมื่อสบโอกาสจะทำการโจรกรรมทันที
ใช้ลวดเกี่ยวปุ่มล็อกประตูรถ : รถบางชนิดไม่มีหูช้าง คนร้าย จะใช้วิธีดึงกระจกที่บานประต ูให้เผยอเพียงเล็กน้อย และถ้าเจ้าของปิดกระจกไม่สนิท ก็ยิ่งเป็นโอกาส ให้เกิดความสะดวก แก่คนร้ายมากขึ้น ต่อจากนั้น คนร้ายจะใช้ลวด ทำเป็นห่วงที่ปลาย สอดเข้าไป ดึงปุ่มล็อกประตูออก เปิดประตูเข้าไปในรถ ต่อไฟฟ้าสายตรง สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับ หลบหนีไป
ใช้ไขควงฉาก : คนร้าย จะทำไขควงชนิดหน้าแบน ขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต (รวมความยาวของด้าม) ที่ตอนปลายไขควง ตรงความยาวประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวไขควง ดัดงอเป็นมุมฉาก ใช้ปลายไขควง สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ งัดอย่างแรง กระปุกกุญแจประตู จะแตกและหลุดออกมา สามารถเปิดประตูรถ เข้าไปต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับหลบหนีไป
งัดฝาถัง น้ำมัน : มีรถหลายชนิดฝาถังน้ำมันอยู่ภายนอก และกุญแจเปิดฝาถัง น้ำมัน กุญแจเปิดประตูรถ และกุญแจติดเครื่องยนต์ ใช้ดอกเดียวกัน คนร้ายจะใช้กุญแจเลื่อนขนาดใหญ่ งัดเอาฝาน้ำมัน ไปทำกุญแจ โดยอาศัยร่องรอย จากรูกุญแจของฝาถังน้ำมัน เมี่อทำเสร็จแล้ว จะได้ทั้งกุญแจไปไขประตูรถ และติดเครื่องยนต์
ใช้น้ำกรด : คนร้ายจะใช้น้ำกรดใส่ขวด และมีลูกยางหรือเข็มฉีดยาพร้อมหลอด ดูดน้ำกรดจากขวดน้ำ ไปหยอดหรือฉีด เข้าไปในรูกุญแจประตูรถ น้ำกรดจะเข้าไปทำลายช่อง กุญแจ ทำให้สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป
เปิดกระจกหลังรถ : คนร้าย จะใช้ไขควง งัดยางขอบกระจกหลังรถออก แล้วเปิดกระจกออกด้วยแรงดึง ซึ่งกระทำด้วยความชำนาญ คนร้ายหรือลูกมือที่ใช้วิธีการนี้ จะเคยเป็นช่างถอด หรือใส่กระจกมาก่อน เมื่อถอดกระจกออกได้แล้ว จะมุดตัวเข้าไปในรถ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับรถหลบหนีไป
ใช้เหล็กเขี่ยสลักล็อกประตู : คนร้าย จะทำเหล็กเป็นลักษณะแบนหรือกลม หรือใช้ไขควงตัวเล็ก ๆ แหย่เข้าไปในรู ใต้หูจับเปิดรถ แล้วเขี่ยสลักล็อกประตูรถ เปิดประตูเข้าไปในรถ ใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป
ใช้กุญแจพิเศษ : คนร้ายจะใช้เหล็กที่แข็งเป็นพิเศษ ทำเป็นหยักหรือร่องถี่ๆ มีขนาดความหนาเท่ากับกุญแจรถทั่ว ๆ ไป กุญแจพิเศษนี้มีความแข็งมากเป็นพิเศษ เมื่อใส่เข้าไปในรูกุญแจประตูรถแล้วบิดด้วยความแรง ความแข็งของกุญแจพิเศษจะงัดร่อง ในกุญแจประตูรถให้หักหรือไม่อยู่ในสภาพเดิม สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ ต่อไฟฟ้า สายตรงเพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป
ใช้คีมบิดยวงกุญแจ : คนร้าย จะใช้คีมที่มีความเหมาะสม ในการคีบยวงกุญแจ ประตู อาศัยแรงบีบที่แน่น และมั่นคง บิดด้วยความแรงดึงเอายวงกุญแจประตูรถออกไป แล้วนำไปจ้าง ช่างทำกุญแจปลอม เพื่อโจรกรรมรถคันนี้ต่อไป
ใช้กลอุบายรับจ้างขับรถ : คนร้ายจะใช้วิธีการง่าย ๆ โดยไปรับจ้างเป็น คนขับรถตามสำนักงานจัดหางาน เมื่อได้รถแล้วก็จะขับรถให้นายจ้างประมาณ 6 - 7 วัน ได้โอกาสก็จะขับรถหลบหนีไป
จี้หรือชิงรถซึ่งหน้า : คนร้ายประเภทนี้ จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปฏิบัติการครั้งละ 2 คน (ขับขี่ 1 คน และซ้อนท้าย 1 คน) ติดตามสะกดรอยรถ ตามใบสั่ง เมื่อเจ้าของรถหรือเหยื่อขับรถคนเดียว ไปจอด หรือผ่านไปในเส้นทางที่เปลี่ยว หรือลับตาคน คนร้ายก็จะใช้วิธีขับรถจักรยานยนต์ ไปเฉี่ยวรถของเหยื่อ เมื่อเหยื่อ ซึ่งเป็นเจ้าของรถหยุด รถลงตรวจสอบความเสียหาย คนร้าย จะใช้อาวุธปืนหรือมีดปลายแหลม จี้ให้ลงจากรถ และส่งกุญแจรถให้ คนร้ายก็จะขับขี่รถเอาไปซึ่งหน้า ทิ้งผู้เสียหาย (เจ้าของรถ) ไว้ในที่ เกิดเหตุ
มอมยาคนขับรถยนต์รับจ้าง : คนร้าย จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นแรก คนร้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จำนวน 4 - 5 คน จะไปว่าจ้างรถยนต์ (ตามใบสั่ง ที่ต้องการ) เพื่อไปเที่ยวน้ำตก หรือสถานท่องเที่ยว ในต่างอำเภอหรือจังหวัด เสร็จงาน ก็จะจ่ายเงินให้คนขับตามปกติ ขั้นที่สอง เป็นห้วงระยะเวลา 4 - 5 วัน จากขั้นแรก คนร้ายชุดเดิม จะว่าจ้างรถไปเที่ยวเหมือนเดิม แต่จะนัดหมายกับคนร้ายพวกเดียวกัน 1 - 2 คน ไปรอ ณ. จุดที่กำหนดเพื่อรอรับรถ ใกล้บริเวณจุดที่กำหนด คนร้ายที่เป็นผู้หญิง จะพยายามหาโอกาส ในช่วงที่คนขับรถ รับประทานอาหารร่วมกัน ใส่ยานอนหลับ หรือยาชนิดอื่นที่ทำให้มึนเมาหมดสติลงไปในเครื่องดื่ม หรืออาหาร เพื่อมอม คนขับรถให้หมดสติ ต่อจากนั้น ก็จะส่งคนขับรถไปนอนที่โรงแรม ซึ่งได้จองไว้ล่วงหน้า แล้วนำกุญแจรถให้กับคนร้าย ซึ่งรออยู่แล้วขับรถหลบหนีไป วิธีการนี้ค่อนข้างจะ เป็นวิธีใหม่ในการโจรกรรมรถ
รถยนต์ที่มีล็อคพวงมาลัยอัตโนมัติ : คนร้ายจะใช้เท้าถีบและใช้มือดึงพวงมาลัย ให้สลักล็อคพวงมาลัยหักหรือหลุด
รถยนต์ที่ใช้โซ่ล่ามพวงมาลัยกับคันเบรค : คนร้ายจะใช้กรรไกรตัดเหล็กขนาด ใหญ่และคมตัดโซ่หรือทำลายกุญแจโดยการใช้น้ำกรดหยอดลงในรูกุญแจ แล้วใช้เหล็กงัดทำลายกุญแจ
รถยนต์ที่มีอุปกรณ์ล็อคคลัชและเบรค : คนร้ายจะใช้วิธีทำลายกุญแจ แบบใช้ น้ำกรดหยอด หรือเหล็กงัด หรือใช้วิธีตัดแผ่นรองเท้าที่คันคลัชและเบรคออก
รถยนต์ที่ติดตั้งสัญญาณส่งเสียง : คนร้ายจะศึกษาล่วงหน้าว่าเจ้าของรถทำไว้ อย่างไร เช่น ติดตั้งสัญญาณไว้ที่ประตู ถ้าเปิดประตูสัญญาณจะดัง คนร้ายก็จะใช้วิธี ทุบกระจกประตู หรือถอดกระจกหลังรถเพื่อเข้าไปในรถโดยไม่ต้องเปิดประตู
รถยนต์ตัดสวิทซ์หรือตัดวงจรไฟฟ้า : คนร้ายก็จะใช้วิธีศึกษาการใช้ของเจ้าของ รถมาก่อนทำการโจรกรรม ถ้าไม่สามารถทำได้ คนร้ายจะมีลูกมือเป็นช่างไฟฟ้า ทำงานในอู่ซ่อมรถมาก่อนเป็นผู้ดำเนินการต่อวงจรใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสวิทซ์ ติดวงจรลับที่ทำไว้