จำนวนผู้เข้าชม : 311 ครั้ง
End Page
 
 
ใส่ใจสักนิดกับเรื่องสลับยางรถยนต์

จะว่าไปแล้วยางรถยนต์ก็เป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่ถือว่าสำคัญมากที่ควรเอาใจใส่และดูแลมันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการสลับยางรถยนต์ เป็นสิ่งที่จะยืดอายุการใช้งาน รวมทั้งใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของรถยนต์ เราสามารถเลือกที่จะสลับยางรถยนต์ด้วยตนเองได้

โดยปกติคุณสามารถตรวจได้ว่ายางรถยนต์ของคุณควรทำการสลับยางรถยนต์ทุกกี่กิโลเมตรจากคู่มือรถของคุณ แต่หากไม่มี คุณอาจทำการสลับทุก 10,000 กิโลเมตรสำหรับรถทั่วไป และ 4,000 กิโลเมตรสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อรถแต่ละประเภทจะมีการสึกหรอแตกต่างกัน

รถแต่ละประเภทจะมีการสึกหรอแตกต่างกัน การสลับยางรถยนต์นั้นมีเหตุผล เพื่อให้การสึกหรอของดอกยางรถยนต์ในส่วนของล้อด้านหน้าและล้อด้านหลัง มีการสึกหรอที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งรถแต่ละประเภท จะมีการสึกหรอของยางที่แตกต่างกันไป ตามการขับเคลื่อนของล้อ

รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า (FRONT WHEEL DRIVE) ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนของรถ การสึกหรอของยางรถยนต์ในคู่หน้าจะมีมากกว่ายางรถยนต์คู่หลังโดยเฉลี่ย 2-3 เท่า ทั้งนี้เนื่องจากภาระต่าง ๆ จะตกอยู่ที่ด้านหน้าเป็นส่วนมาก ทั้งระบบขับเคลื่อนให้ล้อเสียดสีกับพื้นถนนขับเคลื่อนไปข้างหน้า การบังคับทิศทางการเลี้ยวก็ตกอยู่ที่ด้านหน้า รวมถึงการเบรกหยุดความเร็วรถ

หากไม่ทำการสลับยางรถยนต์ตามกำหนดระยะเวลา ผลที่จะตามมาคือ เรื่องของการสึกหรอของยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นจะไม่เท่ากัน และจะส่งผลไปถึงเรื่องของการผิดปรกติของศูนย์รถที่ไม่สมดุล นอกจากนี้ การสึกหรอของยางรถยนต์ที่ไม่เท่ากันมาก ๆ เรื่องของการเบรกดึงซ้ายหรือดึงขวาไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็เกิดจากสาเหตุของยางรถยนต์ประการหนึ่งเช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้หากเกิดขึ้นขณะใช้ความเร็วสูง ๆ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้




(รูปที่ 1) การสลับยางรถยนต์ที่ดี ควรทำการสลับยางรถยนต์ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร โดยในการสลับยางรถยนต์ครั้งแรกจะทำการสลับยางรถยนต์ในลักษณะเปลี่ยนยางรถยนต์จากล้อหลังมาไว้ล้อหน้า และเปลี่ยนยางรถยนต์จากล้อหน้าไปไว้ล้อหลัง ซึ่งในการเปลี่ยนสลับยางรถยนต์จะทำการสลับเป็นฝั่งไป คือ ยางรถยนต์หน้าฝั่งซ้าย สลับกับยางรถยนต์หลังฝั่งซ้าย และยางรถยนต์หน้าฝั่งขวา สลับกับยางรถยนต์หลังฝั่งขวา

ที่สำคัญ หลังการสลับยางรถยนต์เสร็จสิ้นใน 10,000 กิโลเมตรแรก ควรทำการถ่วงล้อทั้ง 4 ล้อ ตรวจเช็กสภาพของผ้าเบรกว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ปรกติ ตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่อง ตรวจวัดระดับน้ำมันเบรกในกระปุกปั๊ม ตรวจสอบช็อกแอบซอร์เบอร์ และลูกหมาก ทำความสะอาดไส้กรองอากาศ ตรวจเช็กศูนย์ล้อ รวมถึงเรื่องของการอัดจาระบีดุมล้อ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบช่วงล่าง




(รูปที่ 2) หลังจากใช้งานยางรถยนต์ต่อไปจนถึง 20,000 กิโลเมตร หรือครบรอบอีก 10,000 กิโลเมตร

การสลับยางรถยนต์ครั้งนี้ จะแตกต่างจากการสลับยางรถยนต์ใน 10,000 กิโลเมตรแรก ซึ่งวิธีการสลับยางจะเป็น ลักษณะไขว้ โดยจะทำการเปลี่ยนยางรถยนต์ล้อขวาหน้าไปไว้ล้อหลังซ้าย ยางรถยนต์ล้อหลังซ้ายสลับแทนที่ยางรถยนต์ล้อหน้าขวา ส่วนยางรถยนต์ล้อหน้าซ้ายจะเปลี่ยนสลับกับยางรถยนต์ล้อหลังขวา

ซึ่งในการเปลี่ยนสลับยางรถยนต์ครั้งนี้ สิ่งที่ต้องสังเกต คือ ทิศของหน้ายางรถยนต์ หรือลูกศรบอกตำแหน่งของยางรถยนต์อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ ในกรณีที่สลับยางรถยนต์แล้วลายดอกยางย้อนศร อันนี้ต้องให้ร้านยางรถยนต์ทำการกลับด้านยางรถยนต์ให้ถูกต้อง
*** หลังจากนั้นให้ทำการตรวจเช็กร่วมเช่นเดียวกับ 10,000 กิโลเมตรแรก ในทุกครั้งที่ทำการสลับยางรถยนต์




(รูปที่ 3) เมื่อเข้าถึง 30,000 กิโลเมตร การสลับยางรถยนต์จะเป็นดังเช่นการสลับยางรถยนต์ในครั้งแรกสลับยางรถยนต์ล้อหน้าซ้ายไปไว้ล้อหลังซ้าย และล้อหน้าขวาสลับยางรถยนต์กับล้อหลังขวา เหตุผลที่ต้องทำการสลับยางรถยนต์ในลักษณะเช่นนี้ เพื่อให้ยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นมีการสึกหรอที่เท่าเทียมกัน เนื่องจากยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นมีการสลับครบทุกด้าน ซึ่งยางรถยนต์แต่ละล้อจะรับภาระที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ยางรถยนต์หน้าขวา นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนรถให้เลื่อนไหล ล้อหน้าขวาจะอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับด้านคนขับ ภาระที่เพิ่มขึ้น คือ เรื่องของการรับน้ำหนักคนขับพ่วงเข้าไปด้วย เป็นต้น

 




(รูปที่ 4) เมื่อถึง 40,000 กิโลเมตร การสลับยางรถยนต์ก็จะเป็นดังเช่น การสลับยางรถยนต์ในช่วง 20,000 กิโลเมตร ที่จะทำการสลับยางในลักษณะไขว้กัน โดยยางรถยนต์ล้อหน้าขวาจะสลับกับยางรถยนต์ล้อหลังซ้าย ยางรถยนต์ล้อหลังซ้ายก็เปลี่ยนสลับแทนที่ยางรถยนต์หน้าขวา และยางรถยนต์ล้อหน้าซ้ายเปลี่ยนสลับกับยางรถยนต์ล้อหลังขวา ยางรถยนต์ล้อหลังขวาก็เปลี่ยนไปแทนที่ยางรถยนต์ล้อหน้าซ้าย หลังจากนั้นก็ให้ทำการตรวจเช็กหน้ายางรถยนต์ว่าย้อนศรหรือไม่

ในกรณีที่ไม่ทราบว่าใส่ยางรถยนต์ย้อนศรหรือไม่ วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ให้สังเกตที่แก้มยางรถยนต์ในบางรุ่นจะมีลูกศรชี้บอกทิศของการใส่ยางรถยนต์ไปด้านหน้า และในกรณีที่ยางรถยนต์ไม่มีลูกศรบอกทิศ ให้สังเกตที่วันผลิตซึ่งจะบอกไว้ที่แก้มยางรถยนต์ ให้ด้านตัวเลขบอกวันผลิตของยางรถยนต์หันออกด้านนอกเสมอ นั่นคือ ด้านยางที่ถูกต้อง



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 23 ส.ค. 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 
สาระน่ารู้
ข่าวรถมือสอง
เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

ข่าวรถมือสอง
รถเปลี่ยนมือ อย่าลืมเปลี่ยนสิทธิ์ 5 เรื่องควรรู้ เพื่อปลดหนี้อย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
คู่มือดูแลยางรับหน้าฝน: ดูแลยางอย่างไรให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

ข่าวรถมือสอง
CARS24 แนะนำ 6 รถครอบครัวรุ่นฮิต ผ่อนเริ่มต้น 10,000 บาท

ข่าวรถมือสอง
ประโยชน์ของชุดปะยางฉุกเฉิน

ข่าวรถมือสอง
นิสสัน เทอร์ร่า แชร์เคล็ดลับการเดินทางกับเด็กเล็ก เคล็ดลับการเดินทางที่รับประกันว่าจะทำให้ทั้งครอบครัว

ข่าวรถมือสอง
7เหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ มิตซูบิชิ ไทรทัน

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน

ข่าวรถมือสอง
5 ฟีเจอร์ในรถฟอร์ดเอเวอเรสต์ผู้ช่วยของสุดยอดคุณแม่

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดเผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับของการขับออฟโรด

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะนำ4เคล็ดลับการรักษาสีรถให้เหมือนใหม่

ข่าวรถมือสอง
ไบค์เกอร์เท่านั้นที่รู้! เปิด 5 เหตุผล ทำไมไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ถึงเป็นพรีเมียมบิ๊กไบค์ ที่ใครๆ ก็อยาก

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเทคนิคขับรถทางไกลให้ประหยัดน้ำมัน

ข่าวรถมือสอง
5 วิธีขับรถลุยน้ำอย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
แอร์รถสะอาด สำคัญกว่าที่คิด

   
   
 
   
 
 
 
 
ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด
   Copyright © 2013 :By media ltd.