จำนวนผู้เข้าชม : 1041 ครั้ง
End Page
 
 
สัญญาณไฟฉุกเฉิน ใช้อย่างไรให้ถูกกาลเทศะ

ไฟฉุกเฉิน ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า “ไฟฉุกเฉิน” เพราะฉะนั้น ไฟฉุกเฉินจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและรถจอดหยุดนิ่งเท่านั้น ปัจจุบันอนุโลมให้ใช้ได้ในกรณีฉุกเฉินอื่นๆ เช่น รถเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัย เป็นต้น

    จุดประสงค์ที่แท้จริงของไฟฉุกเฉิน คือบอกตำแหน่งที่รถคุณอยู่และบอกเพื่อนร่วมทางว่าข้างหน้ามีสิ่งกีดขวางอยู่ ให้เบี่ยงทางซ้ายหรือขวา ในปัจจุบันหลายคนตีความหมายของไฟฉุกเฉินผิด และแปรสภาพของไฟฉุกเฉินไปต่างๆ นานา เช่น เปลี่ยนไฟฉุกเฉินเป็น “ไฟผ่าหมาก” ที่ใช้เมื่อเวลาผ่านแยกและไม่มีสัญญาณไฟจราจร หรือแม้แต่ใช้ไฟฉุกเฉินในช่วงฝนตก หนักหมอกลงจัด ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ 

    ข้อดีของการเปิดไฟฉุกเฉินคือ ทำให้ผู้ร่วมทางรู้ว่ารถคันนี้ประสบอุบัติเหตุ จอดเสียอยู่ หรือแม้กระทั่งมีเหตุจำเป็นให้รถขับต่อไปไม่ได้ให้รถที่ตามมาด้านหลังหลบซ้ายหรือขวา  จะได้ไม่ส่งผลต่อการจราจรมากนัก  แต่จากการศึกษาพบว่ามีอยู่หลายสาเหตุ ที่มีการใช้ไฟฉุกเฉินผิดจุดประสงค์ จนทำให้ไฟฉุกเฉินกลายเป็นอุปกรณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ร่วมทาง ไปดูกันเลยครับ ว่ามีกี่กรณี

  1. “ใช้ไฟฉุกเฉินเข้าแยก” เป็นความหวังดีประสงค์ร้ายอย่างมาก เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินรถระหว่างข้ามแยก  ไม่ว่ารถที่มาจากฝั่งซ้ายหรือขวาของรถท่าน จะเห็นสัญญาณไฟอยู่ฝั่งเดียว เขาไม่มีตาทิพย์ที่จะเห็นไฟอีกฝั่งของรถท่านแน่นอน ทำให้เข้าใจว่ารถของท่านจะเลี้ยวและนำไปสู่อุบัติเหตุกลางสี่แยกก็เป็นได้
  2. “หมอกลงจัด ฝนตกหนัก” อีกสาเหตุที่หลายคนเลือกที่จะเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อต้องการตำแหน่งของรถคุณให้คนอื่นทราบ แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อคุณเปิดไฟกระพริบทั้ง 4 ดวง อาจทำให้ผู้ร่วมทางเข้าใจผิดว่าคุณกำลังจะขับรถเปลี่ยนเลน ฉะนั้นคุณควรเปิดแค่ไฟหน้า (ไม่ควรเปิดไฟสูง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อรถที่สวนทางมา) เปิดไฟตัดหมอก ใช้ความเร็วต่ำและขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
  3. “เมื่อต้องหยุดรถกะทันหัน”  เมื่อมีเหตุสุดวิสัยที่ต้องหยุดรถกะทันหันผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อเตือนให้รถคันหลังทราบว่า รถเราเบรกกะทันหัน ซึ่งปกติรถทุกคันเมื่อเบรกจะมีไฟเบรกที่ค่อนข้างสว่างพอสมควร ทำให้รถคันหลังสังเกตเห็นได้ชัดเจน และส่วนมากรถที่ขับตามกันมาจะมีการเว้นระยะห่างเพื่อเบรกอยู่แล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรเมื่อคุณเบรกกะทันหันแล้วต้องเปิดไฟฉุกเฉินเลย
  4. “เมื่อต้องขนของชิ้นใหญ่หรือรถลากจูงจากอุบัติเหตุ” กรณีนี้ถ้าเลือกได้ควรปิดป้ายไว้ด้านท้ายของรถท่าน เช่น “รถลากจูง” หรือผูกผ้าสีแดงเพื่อเป็นสัญญาณว่ารถคันนี้ขนของ ให้ผู้ร่วมทางใช้ความระมัดระวังจะทำให้ปลอดภัยมากกว่าการเปิดไฟฉุกเฉินรวมทั้งใช้ความเร็วต่ำ ขับชิดซ้าย

 





ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 28 ส.ค. 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 
สาระน่ารู้
ข่าวรถมือสอง
เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

ข่าวรถมือสอง
รถเปลี่ยนมือ อย่าลืมเปลี่ยนสิทธิ์ 5 เรื่องควรรู้ เพื่อปลดหนี้อย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
คู่มือดูแลยางรับหน้าฝน: ดูแลยางอย่างไรให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

ข่าวรถมือสอง
CARS24 แนะนำ 6 รถครอบครัวรุ่นฮิต ผ่อนเริ่มต้น 10,000 บาท

ข่าวรถมือสอง
ประโยชน์ของชุดปะยางฉุกเฉิน

ข่าวรถมือสอง
นิสสัน เทอร์ร่า แชร์เคล็ดลับการเดินทางกับเด็กเล็ก เคล็ดลับการเดินทางที่รับประกันว่าจะทำให้ทั้งครอบครัว

ข่าวรถมือสอง
7เหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ มิตซูบิชิ ไทรทัน

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน

ข่าวรถมือสอง
5 ฟีเจอร์ในรถฟอร์ดเอเวอเรสต์ผู้ช่วยของสุดยอดคุณแม่

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดเผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับของการขับออฟโรด

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะนำ4เคล็ดลับการรักษาสีรถให้เหมือนใหม่

ข่าวรถมือสอง
ไบค์เกอร์เท่านั้นที่รู้! เปิด 5 เหตุผล ทำไมไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ถึงเป็นพรีเมียมบิ๊กไบค์ ที่ใครๆ ก็อยาก

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเทคนิคขับรถทางไกลให้ประหยัดน้ำมัน

ข่าวรถมือสอง
5 วิธีขับรถลุยน้ำอย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
แอร์รถสะอาด สำคัญกว่าที่คิด

   
   
 
   
 
 
 
 
ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด
   Copyright © 2013 :By media ltd.