เกิดเหตุฉุกเฉินกับอุปกรณ์เหล่านี้
1. กรณีหม้อน้ำรั่ว
2. กรณียางระเบิด
3. เบรคแตก
4. รถตกน้ำ
5. กระจกหน้าแตก
1. กรณีหม้อน้ำรั่ว ให้หยุดรถแล้วดับเครื่องยนต์ จากนั้นสังเกตรอยรั่วของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีน้ำพุ่งออกมา ต้องอยู่ห่างๆ และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำร้อนพุ่งออกมาลวกได้ ควรปล่อยให้หม้อน้ำเย็นลง
2. กรณียางระเบิด จะมีเสียงดังจากการระเบิดของยาง พยายามรวบรวมสติไว้ อย่าหักพวงมาลัยทันทีทันใด ค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง พวงมาลัยรถจะค่อยๆ หนักขึ้น รถจะเอียงไปทางด้านที่ล้อระเบิด บังคับรถให้วิ่งตรงทาง ค่อยๆ เหยียบเบรคที่ละน้อย นำรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้ายแล้วเปลี่ยนยางอะไหล่
3. เบรคแตก เมื่อเหยียบเบรคจะรู้สึกว่าจมหายลงไปไม่มีแรงต้าน ห้ามล้อไม่ได้ ให้บังคับพวงมาลัยให้รถวิ่งไปในทางที่ปลอดภัย พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดปุ่มล็อคคันเบรคมือไว้ แล้วค่อยๆ ดึงคันเบรคมือขึ้นและลงสลับกัน จนกระทั่งชะลอความเร็วและหยุดรถได้สนิท ข้อควรระวังก็คือ อย่าดึงเบรคมือขึ้นอย่างแรงในทันทีทันใด
4. รถตกน้ำ อย่าตกใจจนไม่ได้สติ ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออก (การคาดเข็มขัดนิรภัย ในขณะขับขี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในกรณีนี้ อย่าเข้าใจผิดว่าเมื่อคาดแล้วจะทำให้ปลดล็อคไม่ทัน เพราะเมื่อรถกระแทกจะทำให้ตัวท่านไม่กระเด็น ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่หมดสติ ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้) ปล่อยให้ตัวรถบริเวณติดตั้งเครื่องยนต์จมน้ำก่อน ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูรถออกได้ในขณะที่ตัวรถยังไม่จมน้ำหมดทั้งคันให้รีบทำ4. รถตกน้ำ อย่าตกใจจนไม่ได้สติ ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออก (การคาดเข็มขัดนิรภัย ในขณะขับขี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในกรณีนี้ อย่าเข้าใจผิดว่าเมื่อคาดแล้วจะทำให้ปลดล็อคไม่ทัน เพราะเมื่อรถกระแทกจะทำให้ตัวท่านไม่กระเด็น ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่หมดสติ ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้) ปล่อยให้ตัวรถบริเวณติดตั้งเครื่องยนต์จมน้ำก่อน ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูรถออกได้ในขณะที่ตัวรถยังไม่จมน้ำหมดทั้งคันให้รีบทำ
5. กระจกหน้าแตก รวบรวมสติ พยายามจำข้างหน้ารถไว้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อบังคับรถไม่ให้ชน เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าจอดไหล่ทางด้านซ้ายมือ ป้องกันรถคันอื่นชนและดึงเบรคมือไว้ หากมีผ้าเทปอยู่ในรถให้นำมาปิดประจกไว้ แล้วเคาะกระจกออก ถ้ามีแว่นตาให้ใส่ไว้เพื่อกันฝุ่นเข้าตา
ผู้แต่ง / แหล่งที่มา :
rodweekly
ผู้บันทึก :
rodweekly
date : [ 28 พ.ย. 2556 ]
|