จำนวนผู้เข้าชม : 600 ครั้ง
End Page
 
 
ดูแลแอร์รถยนต์ ให้เย็นไปอีกนาน

ระบบปรับอากาศ หรือ แอร์ นั้นเรียกได้ว่าเป็นเสมือนตัวช่วยในรถยนต์ที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ก็เพราะว่าสภาพอากาศบ้านเราในหน้าร้อนที่ร้อนเอามากๆ หรือถ้าเรียกเป็นภาษาชาวบ้านเขาก็ว่า “ร้อนตับแตก” และถ้ายิ่งผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราที่ต้องผจญกับอากาศภายนอกในช่วงเที่ยงวัน ยิ่งต้องกระหน่ำเปิดแอร์หรือระบบปรับอากาศให้เย็นที่สุด แต่บางครั้งเมื่อปรับสวิทน้ำยาแอร์ไปที่อุณหภูมิต่ำสุด แอร์เจ้ากรรมก็ยังไม่เย็นเสียที หลายๆท่านอาจจะไปโทษน้ำยาแอร์ว่าหมดบ้างล่ะ เสื่อมสภาพบ้างล่ะ แต่บางครั้งการใช้งานของเราเองเนี่ยแหล่ะครับ ที่เป็นสาเหตุในการทำให้ระบบปรับอากาศนั้นชำรุดก่อนวัยอันควร วันนี้นายทีจึงมีวิธีดีๆในการถนอมแอร์รถยนต์ให้เย็นอยู่คูรถคุณไปอีกนานครับ


1.ทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้ทำการปิดระบบปรับอากาศก่อนทุกครั้ง และสังเกตนะครับว่าปุ่ม A/C อยู่ที่ตำแหน่งเปิดหรือปิด ถ้าเปิดอยู่ให้เราปิดการใช้งานสวิทช์ A/C ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการถนอมคอมเพรสเซอร์แอร์หรือเรียกกันง่ายๆว่า “คอมแอร์” ยังไงละครับ และถ้าเพื่อนๆกำลังจะขับรถถึงที่หมายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ให้ปิดสวิทช์ A/C เพื่อปิดการทำงานของคอมแอร์ และให้ปรับพัดลมให้แรงที่สุดเพื่อเป็นการไล่ความชื้นจากตู้แอร์ออกจากคอยล์เย็น ซึ่งความชื้นนี่แหละครับเป็นสาเหตุของกลิ่นตุๆที่มาจากช่องแอร์ ทิ้งไว้สัก 3 นาทีจากนั้นอย่าลืมปิดแอร์ทุกครั้งก่อนดับเครื่องนะครับ

เพื่อนๆรู้หรือไม่ครับว่า น้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ Refrigerant 12 (R-12) และ Refrigerant 134a (R134a) และทั้งสองชนิดนั้นไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ ก่อนอื่นที่จะเติมน้ำยาแอร์นั้นให้เราทำความเข้าใจกับรถยนต์ของเราเองก่อนว่าใช้น้ำยาแอร์รุ่นไหน โดยถ้าไม่ทราบว่าใช้รุ่นไหนละก็(รูป04) ให้เปิดฝากระโปรงรถคุณดู โดยดูที่ฝาปิดน้ำยาแอร์ถ้าเป็นฝาล็อคนั่นคือเป็นระบบ 134a แต่ถ้าเป็นหัวแบบเกลียวก็คือจะต้องใช้น้ำยาแอร์รุ่นเก่า R-12 ครับ และการเติมน้ำยาแอร์ก็ไม่ควรเติมบ่อยเกินไป เพราะการเติมน้ำยาบ่อยๆอาจทำให้คอมแอร์เสียหาย ถ้าหากเพื่อนๆเติมแล้วไม่เย็นขึ้น แสดงว่ามีรอยรั่วในระบบทำความเย็นแล้วละครับ

3.เมื่อไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานหลายๆ วัน ก่อนที่จะติดเครื่องยนต์ควรเปิดกระจกหรือประตูออก จากนั้นเปิดแอร์ทิ้งไว้ราว 5 นาทีทั้งนี้เพื่อป้องกันความชื้นที่จะติดอยู่ตามท่อแอร์และป้องกันการรั่วของระบบแอร์ได้ครับ

4.การตรวจเช็คแอร์รถยนต์ส่วนใหญ่จะเข้าไปเช็คในศูนย์บริการของรถยนต์ ก็คือทุกๆ 3 เดือน หรือ 5000 กิโลเมตร หรือสะดวกไปเช็คตามศูนย์บริการอิสระที่มีราคาค่าแรงที่ถูกกว่า ซึ่งช่างก็จะทำการปรับตั้งสายพาน ตรวจน้ำยา ล้างเป่าแผงระบายความร้อน ส่วนถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรจะเข้ามาเช็คที่ศูนย์โตโยต้าจะดีกว่าครับ แต่ต้องดูด้วยนะครับว่าประกันแอร์รถยนต์ของท่านหมดไปหรือยัง เพราะทาง Toyota จะรับประกันแอร์ถึง 36 เดือน หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่เงื่อนไขไหนจะถึงก่อนครับ



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 13 ธ.ค. 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 
สาระน่ารู้
ข่าวรถมือสอง
เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

ข่าวรถมือสอง
รถเปลี่ยนมือ อย่าลืมเปลี่ยนสิทธิ์ 5 เรื่องควรรู้ เพื่อปลดหนี้อย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
คู่มือดูแลยางรับหน้าฝน: ดูแลยางอย่างไรให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

ข่าวรถมือสอง
CARS24 แนะนำ 6 รถครอบครัวรุ่นฮิต ผ่อนเริ่มต้น 10,000 บาท

ข่าวรถมือสอง
ประโยชน์ของชุดปะยางฉุกเฉิน

ข่าวรถมือสอง
นิสสัน เทอร์ร่า แชร์เคล็ดลับการเดินทางกับเด็กเล็ก เคล็ดลับการเดินทางที่รับประกันว่าจะทำให้ทั้งครอบครัว

ข่าวรถมือสอง
7เหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ มิตซูบิชิ ไทรทัน

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน

ข่าวรถมือสอง
5 ฟีเจอร์ในรถฟอร์ดเอเวอเรสต์ผู้ช่วยของสุดยอดคุณแม่

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดเผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับของการขับออฟโรด

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะนำ4เคล็ดลับการรักษาสีรถให้เหมือนใหม่

ข่าวรถมือสอง
ไบค์เกอร์เท่านั้นที่รู้! เปิด 5 เหตุผล ทำไมไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ถึงเป็นพรีเมียมบิ๊กไบค์ ที่ใครๆ ก็อยาก

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเทคนิคขับรถทางไกลให้ประหยัดน้ำมัน

ข่าวรถมือสอง
5 วิธีขับรถลุยน้ำอย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
แอร์รถสะอาด สำคัญกว่าที่คิด

   
   
 
   
 
 
 
 
ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด
   Copyright © 2013 :By media ltd.