|
ประหยัดเงินพร้อมรักษาสิ่งแวดล้อม ปรับพฤติกรรมขับรถและเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์จากฟอร์ด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเลือกรถยนต์สักคันด้วยโจทย์ที่ต้องเป็นรถที่แรง ขับสนุก ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ค่าบำรุงรักษาต่ำ รถยนต์ไฮบริดหรืออีโคคาร์ จะไม่ใช่คำตอบของคุณอย่างแน่นอน รถยนต์ที่แรง ขับสนุก แต่ประหยัดน้ำมันเหรอ ต้องลองตัวนี้เลย ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ เทคโนโลยี “อีโคบู๊สต์” ของฟอร์ด นั้นมีมากมายหลายรุ่นด้วยกัน แต่คนไทยได้เป็นผู้ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ก่อนใครในโลกกับฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร เจ้าของรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีระดับนานาชาติ 2 ปีซ้อน ในปี พ.ศ.2555 และพ.ศ.2556 แม้ว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร นี้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุดในตระกูลอีโคบู๊สต์ ด้วยขนาดที่เล็กพอจะบรรจุในช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะบนเครื่องบินได้ แต่ความสามารถในการมอบพละกำลังถึง 125 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 170 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร หรือมากกว่า
จุดเด่นของเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์คือการให้แรงบิดสูงสุดในรอบต่ำตั้งแต่ 1,400- 4,500 รอบต่อนาที ผู้ขับขี่จึงออกตัวและเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ และสามารถตอบโจทย์ของคนไทยที่ต้องการเครื่องยนต์ที่แรง แต่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 18.9 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนดเพียง 121 กรัม/กิโลเมตร ถ้าเลือกรถที่ให้ประสิทธิภาพขนาดนี้แล้วคุณยังต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรอีกหรือเพื่อจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม คำตอบคือ ใช่ และคุณก็ทำได้ง่ายๆ ด้วย แต่เครื่องยนต์ก็ไม่ใช่เพียงแค่วิธีเดียวในการรักษาสิ่งแวดล้อม... ในฐานะผู้ขับขี่ คุณเองก็มีส่วนช่วยได้ ผู้ใช้รถหลายๆท่านต่างเคยขับรถด้วยความเร็วที่มากเกินไปในบางครั้ง การควบคุมอารมณ์ให้สงบระหว่างขับรถสามารถช่วยคุณได้อย่างมากเพราะการเร่งความเร็วหรือเหยียบเบรกกระทันกัน จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ถึง 40% และยังส่งผลให้อัตราการปล่อยมลภาวะเสียเพิ่มขึ้นได้มากถึง 5 เท่านอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนเลนบ่อยๆ ไม่ได้ช่วยให้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้นมากนัก ทางที่ดีจึงควรขับอยู่ในเลนเดียวไปเรื่อยๆ จะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมัน และยังลดความดันของคุณไปด้วยในตัว ปัจจัยอื่นๆ เช่นการรักษาระดับความเร็วให้คงที่ก็สามารถช่วยลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ รวมไปถึงการไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ และตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอ การพยายามเก็บสัมภาระไว้ในรถไม่เกิน 48 กิโลกรัม ก็ช่วยประหยัดนำมันได้ถึง 2%
นอกจากนั้น การทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอจะช่วยประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 8% ตัววัดระดับอ๊อกซิเจนก็ควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมไปถึงการเลือกใช้น้ำมันออคเทนตามที่กำหนดไว้ตามในคู่มือประจำรถ การตรวจเช็คลมยาง หรือการเลือกใช้ยางที่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ ซึ่งหมายถึงค่าน้ำมันที่ลดลงตามไปด้วย เมื่อแรงเสียดทานลดลง รถก็สามารถเคลื่อนไปบนท้องถนนได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น ทำให้ความร้อนระหว่างยางและพื้นถนนลดลง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือการนำรถเข้าตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการหมั่นตรวจสุขภาพฟัน การดูแลรักษารถยนต์เป็นการลงทุนที่ไม่น้อย แต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวกว่า การที่จะรอจนรถเสียค่อยนำไปซ่อมระหว่างที่รถยังอยู่ในระยะประกัน ควรนำไปเข้าศูนย์บริการมาตรฐานที่มีอุปกรณ์พร้อมในการดูและรักษารถคุณ ด้วยเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์และการดูแลรักษา สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรถในแต่ละเดือนได้ ให้คุณได้สบายกระเป๋าและยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัว
ผู้แต่ง / แหล่งที่มา :
นิตยสาร รถ Weekly
ผู้บันทึก :
พิเชฐ แช่มช้อย (กองบรรณาธิการ)
date : [ 24 ธ.ค. 2556 ]
|
|
|