จัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของคุณก่อน
* สูดลมหายใจลึกๆ เรียกสติกลับคืนมา ท่องไว้ว่าคุณต้องควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
* เปิดไฟกระพริบเพื่อให้สัญญาณเตือนผู้ร่วมเส้นทาง แจ้งให้ทราบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
* สำรวจความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสารภายในรถ อย่ารีบร้อนลงไปดูความเสียหายจนลืมอันตรายที่จะเกิดขึ้น
* สำรวจความเสียหายภายในรถ หากพบว่ามีอะไรผิดปกติ คุณและผู้โดยสารรีบออกจากตัวรถทันที
* ควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติก่อนเจรจากับคู่กรณีอย่างฉันท์มิตร พยายามใช้คำพูดสุภาพและไม่สนใจคำพูดกวนโทสะของคู่กรณี มิฉะนัน้อุบัติเหตุอาจลุกลามสู่ปัญหาอื่นได้
* พยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากการโต้เถียง ให้คู่กรณีกลับมาสำรวจความปลอดภัยของตนเอง ผู้โดยสาร และรถของตนเองจะดีกว่า
* อยู่ในความสงบนิ่งให้ได้นานที่สุด ในระหว่างที่รอรอตำรวจและเจ้าหน้าที่ประกันภัย
จัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
* แจ้งเหตุกับบริษัทประกันภัย (โทร. 1557 บริการพิเศษ แจ้งอุบัติเหตุเบอร์เดียวทั่วประเทศ) และแจ้งตำรวจ
* เตรียมข้อมูลดังนี้ เลขกรมธรรม์ หรือชื่อผู้เอาประกัน เลขทะเบียนและรายละเอียดของรถยนต์ ชื่อคนขับพร้อมบอกเล่ารายละเอียดของอุบัติเหตุโดยย่อ บอกจุดที่เกิดเหตุให้ชัดเจน เพื่อง่ายต่อพนักงานประกันจะไปให้บริการ
* ในกรณีถูกชนแล้วหนี ให้จดทะเบียนรถคู่กรณี ไปแจ้งเจ้าพนักงานตำรวจต่อสน.ในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินคดี ต่อไป แต่หากรถสูญหายให้รีบแจ้งตำรวจท้องที่ โทร 191 และสายด่วนวิริยะประกันภัย 1557 เพื่อช่วยประสานงาน หรือสามารถติดต่อศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์โดยตรง โทร. 0-2245-6951
* ถ้าสามารถตกลงกันโดยง่ายและเคลื่อนย้ายรถได้ ควรหลบริมถนนหรือที่ที่ปลอดภัยแต่ถ้าไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด หรือไม่มีคู่กรณีที่แน่ชัด อย่าเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิด เหตุ ต้องรอให้ตำรวจหรือบริษัทประกันมาตรวจสอบ ทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายเสียก่อน ยังไม่ควรตกลงยินยอมใดๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ประกันภัยและตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุ
เห็นมั๊ยครับว่าอุบัติเหตุ ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดเสมอไป หากคุณจัดการได้ แต่ถ้าคุณไม่ตั้งสติให้มั่นคง อาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ หรือถึงขั้นสูญเสียคนที่คุณรักไป