การเสียชีวิตเนื่องจากนอนหลับในรถยนต์ขณะสตาร์ตเครื่องยนต์เปิดแอร์นั้นเป็นลักษณะของการขาดออกซิเจนแล้วหลับเป็นอาการโคม่าของสมอง เนื่องจากไม่มีการระบายอากาศ ปัจจุบันรถยนต์ของทางยุโรปพยายามแก้ปัญหานี้โดยตั้งค่าว่าเวลาที่สตาร์ตเครื่องยนต์ใหม่ ๆ จะเข้าสู่โหมดใช้อากาศภายนอกโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นจะตั้งค่าไว้ว่าใช้อากาศหมุนเวียนภายในอย่างเดียวและอยู่ในโหมดเดียวตลอด
โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นเก่าหรือรถที่ขอบยางเสื่อมสภาพแล้ว ยิ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้หากเราไปจอดรถนอนหลับในสถานที่ปิด เช่น ลานจอดรถ เนื่องจากมีคาร์บอนมอนอกไซด์เข้ามาภายในรถ ซึ่งจะไปทำลายฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดทำให้เสียชีวิต ซึ่งรถยนต์รุ่นเก่าย้อนหลังไป 10 ปี ถ้าเป็นรถเก๋งจะใช้หัวเทียนจุดระเบิด การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จึงเกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดร คาร์บอนที่ไม่ถูกเผาไหม้หรือเชื้อเพลิงที่ไม่ถูกเผาไหม้ ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นแก๊สพิษ ทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น
หากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ กระบวนการเผาไหม้อาศัยออกซิเจนเซ็นเซอร์ในการอ่าน คือจะปรับสภาพโดยอัตโนมัติ มีเซ็นเซอร์วัดไอเสียและปรับลักษณะการเผาไหม้ให้ตอบสนอง ทำให้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ มีการเผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า ยิ่งไปกว่านั้นจะมีระบบ Catalytic Converter เพื่อกำจัดมลพิษในไอเสีย ดังนั้นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการขาดอากาศหายใจเนื่อง จากอากาศข้างนอกที่เป็นพิษไหลเข้าไปในรถ เพราะหากติดเครื่องนอนในรถอากาศภายในจะเย็นมากจึงมีความหนาแน่นมาก ทำให้อากาศข้างนอกที่มีความร้อนกว่าไม่มีโอกาสเข้าไปภายในได้ ยกเว้นว่าการดีไซน์รถยนต์จากห้องเครื่องมาจนถึงห้องโดยสารจะมีลูกยางบางตัวที่ซีลไว้แล้วเกิดมีรูรั่วจึงมีโอกาสที่อากาศจากภายนอกจะเข้าไปได้ เพราะว่าด้านหน้ารถมีพัดลมซึ่งจะดูดอากาศจากหน้ารถไปหลังรถ จึงถูกพัดลมดันแก๊สไอเสียเข้ามาในห้องโดยสาร
อย่างไรก็ตามทั้งรถรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มีโอกาสทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เนื่องจากมีการซีลไว้อย่างดี เมื่อสตาร์ตเครื่องนอนหลับออกซิเจนจะถูกจำกัดอยู่ภายใน และในขณะที่เราหายใจออกมาก็มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาด้วย ปกติแล้วคนเราไม่นอนหลับแค่แป๊บเดียว เวลาหลับสนิทก็จะหลับยาวไปเลยจึงมีโอกาสเสียชีวิตสูงจากการขาดอากาศหายใจในลักษณะนี้เช่นกัน
การเปิดกระจกรถแง้มไว้เล็กน้อยจะปลอดภัยกว่าหากจำเป็นต้องนอนในรถ เพราะปกติแล้วก๊าซจากท่อไอเสียมีอุณหภูมิสูงจึงทำให้ลอยสูง ถ้าจอดรถในที่โล่ง ๆ โอกาสที่มันจะลอยย้อนกลับเข้ามาในรถน้อยมาก แต่ถ้าจอดอยู่ในพื้นที่ปิด เช่น ลานจอดรถ ก๊าซลอยออกไปไหนไม่ได้จึงอบอวลอยู่ในนั้นและวิ่งกลับเข้ามาที่ห้องโดยสาร ทำให้มีโอกาสตายได้ถึงแม้จะแง้มกระจกไว้ก็ตาม นอกจากนี้ถ้าเราสังเกตดี ๆ รถรุ่นใหม่บางรุ่นจะมีการดีไซน์ท่อไอเสียติดขอบรถยนต์และคว่ำท่อบังคับทิศทางให้ไอเสียถูกกดลงพื้น ทำให้ไม่ลอยออกไปด้านบนและมุดเข้ามาใต้รถ ทำให้เราต้องสูดดมกลิ่นท่อไอเสียถ้าจอดอยู่เฉย ๆ
สำหรับข้อแนะนำหากจำเป็นต้องนอนในรถยนต์ ควรหาที่จอดในที่โล่ง และแง้มกระจกเล็กน้อยพอให้มือลอดเข้ามาไม่ได้ ก็สตาร์ตเครื่องเปิดแอร์นอนได้ ควรเช็กขอบยางของประตูหน้าต่างรถว่าเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง สังเกตง่าย ๆ เวลาจอดเฉย ๆ จะมีกลิ่นควันรถจากภายนอกเข้ามาภายใน และเวลารถวิ่งจะได้ยินเสียงจากข้างนอกดังขึ้น หรือว่าเวลาปิดประตูรถยนต์มักมีเสียงกระแทกแรง นอกจากนี้ต้องคอยเปลี่ยนโหมดเครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ เนื่องจากใช้ไฟฟ้าทำงาน ถ้าไม่เคยเปลี่ยนเลยแกนจะตาย ทำให้เวลาที่จำเป็นต้องใช้ไม่สามารถทำได้
การนอนหลับในรถยนต์จะไม่อันตรายอีกต่อไปหากปฏิบัติตามคำแนะนำ และสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของเราด้วย หากเจ็บป่วย อ่อน เพลีย และเมามากควรระมัดระวังเป็นพิเศษควรหลีกเลี่ยงการนอนหลับในรถเพื่อความปลอดภัยในชีวิต..!.