การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า และสายไฟต่าง ๆ ในบ้าน หากใช้ด้วยความไม่ระมัดระวัง และเลือกชิ้นที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจทำให้คุณและครอบครัวตกอยู่ในความเสี่ยงต่ออันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร และไฟไหม้บ้านได้อย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะปลั๊กพ่วง หรือที่เรียกกันติดปากว่า ปลั๊กสามตา ถึงแม้จะมีชนิดที่ราคาถูกออกมาขายกันเกลื่อนตลาด แต่รู้หรือไม่ว่าการเลือกปลั๊กพ่วงที่คุณภาพไม่ดีจนเกินไป รวมถึงการใช้งานที่ผิดวิธี อาจทำให้คุณต้องเพิ่มความเสี่ยงขึ้นมากเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอม จึงมีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับวิธีเลือกปลั๊กพ่วง และข้อควรใช้อย่างถูกต้อง จาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาฝากค่ะ ลองไปดูกันเลย
การเลือกซื้อปลั๊กไฟสายพ่วง
- เลือกซื้อปลั๊กไฟสายพ่วงที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส่วนประกอบของรางปลั๊กไฟสายพ่วงทั้งเต้าเสียบ เต้ารับ สายไฟ และรางปลั๊กไฟ ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีสวิตช์เปิด-ปิด และฟิวส์ช่วยตัดกระแสไฟฟ้าหากใช้ไฟฟ้าเกินขนาดที่กำหนด
- สายไฟของชุดสายพ่วงต้องมีฉนวนหุ้ม 2 ชั้น รวมถึงเต้าเสียบและเต้ารับมีแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 250 โวลต์ รวมถึงรางเต้ารับผลิตจากพลาสติกเอวีซี (AVC) ซึ่งเนื้อพลาสติกจะเนียนและทนต่อความร้อนได้ดีกว่าพลาสติกพีวีซี (PVC) จึงช่วยลดความเสี่ยงจากเพลิงไหม้กรณีเกิดความร้อนสูงที่ปลั๊กไฟสายพ่วง
การใช้งานปลั๊กไฟสายพ่วง
- ใช้ปลั๊กไฟสายพ่วงด้วยความระมัดระวัง โดยปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้ากับ ปลั๊กไฟสายพ่วง เมื่อใช้งาน เต้าเสียบและเต้ารับต้องแน่นพอสมควรและไม่หลวมง่าย เพราะหากปลั๊กไฟหลวม แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ปริมาณไฟฟ้าน้อย ก็สามารถทำให้เกิดความร้อน จนเกิดประกายไฟลุกไหม้ได้
- ไม่ใช้ปลั๊กไฟสายพ่วงเกินขนาดพิกัดกระแสไฟฟ้า โดยไม่เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน หากใช้ปริมาณไฟฟ้ารวมกันเกินขนาดที่ปลั๊กไฟสายพ่วงกำหนด (16 แอมป์ หรือ 2,600 โวลต์) สายไฟจะเกิดความร้อนสูงจนละลาย ทำให้สายทองแดงที่อยู่ภายในสายไฟทั้งสองเส้นแตะกัน ส่งผลให้ไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดเพลิงไหม้ได้
- ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกจากปลั๊กไฟสายพ่วงทุกครั้งหลังใช้งาน พร้อมถอดเต้าเสียบของสายพ่วงออกจากปลั๊กที่ติดกับผนัง เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าและป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
- กรณีพบสิ่งผิดปกติขณะใช้งานปลั๊กไฟสายพ่วง เช่น สายไฟร้อน มีเสียงดัง เกิดประกายไฟ เป็นต้น ให้หยุดใช้งานทันที พร้อมปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า สวิตช์ปลั๊กไฟสายพ่วง จากนั้นให้ถอดเต้าเสียบของปลั๊กไฟสายพ่วงที่ติดกับผนังออก เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรนำปลั๊กไฟสายพ่วงที่ชำรุดมาใช้งานอย่างเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้
ข้อควรระวังในการใช้งานปลั๊กไฟสายพ่วง
- ไม่นำปลั๊กไฟสายพ่วงที่อยู่ในสภาพชำรุดมาใช้งานอย่างเด็ดขาด เช่น ฉนวนหุ้มสายไฟแตก สายไฟมีรอยซ่อมแซมหรือพันด้วยเทป เต้ารับและเต้าเสียบมีรอยไหม้ ขาปลั๊กเต้าเสียบหลอมละลาย เป็นต้น เพราะเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
- ห้ามนำรางปลั๊กไฟสายพ่วงไปติดตั้งแบบถาวร หรือเดินสายไฟปลั๊กพ่วงติดกับผนังห้อง ฝ้าเพดาน ใต้พื้น และใต้พรม เพราะรางปลั๊กไฟถูกออกแบบสำหรับใช้งานชั่วคราว หากติดตั้งแบบถาวรจะชำรุดได้ง่ายและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร
- ไม่ใช้ปลั๊กไฟสายพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าตลอดเวลา เช่น ตู้เย็น เครื่องทำน้ำเย็น เป็นต้น ควรใช้ปลั๊กไฟแบบถาวรที่ติดกับผนัง รวมถึงไม่ใช้รางปลั๊กไฟสายพ่วงต่อพ่วงกันหลายชั้น เพื่อป้องกันสายไฟเกิดความร้อนสูง ทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้
ทั้งนี้ การเลือกใช้ปลั๊กไฟสายพ่วง นอกจากผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงความสะดวกและความเหมาะสมต่อสภาพการใช้งานแล้ว ควรพิจารณาคุณภาพของชุดวัสดุที่ประกอบเป็นปลั๊กไฟสายพ่วงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมหมั่นสังเกตและตรวจสอบปลั๊กไฟสายพ่วงให้อยู่ในสภาพใช้งานได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ จะช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้