นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่าร้อยละ 80 เกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ เกิดจากการขาดวินัย และสำนึกที่ดีในการขับขี่ ขบ.จึงประกาศปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่ เพื่อให้ได้ผู้ขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับเกณฑ์การผ่านข้อเขียน เพิ่มเป็นร้อยละ 90 นั้น จะเริ่มนำมาใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยก่อนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ขบ.จะนำข้อสอบที่ใช้หมุนเวียนในการทดสอบภาคทฤษฎีจำนวนทั้งหมด 1,000 ข้อ ออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.dlt.go.th เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่จะเข้าทดสอบได้ศึกษา เป็นการติวเข้ม และยกระดับมาตรฐานความรู้ ความเข้าใจของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ก่อนเข้าสู่การทดสอบอย่างแท้จริง และเมื่อมีความรู้อย่างเพียงพอ เมื่อไปขับรถบนท้องถนนจะได้มีแนวคิดในการเตือนสติให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
กรมการขนส่งทางบกประกาศปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ใหม่ ด้วยการปรับปรุงหลักสูตรการอบรม 4 ชั่วโมง ให้มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการขับรถอย่างปลอดภัยในสถานการณ์ต่าง ๆ ข้อควรระวัง จุดบอด หรือจุดบกพร่องที่ผู้ขับขี่อาจละเลย หรือมองข้ามจนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมเพิ่มจำนวนข้อสอบเป็น 50 ข้อ โดยผู้ผ่านการทดสอบภาคทฤษฎีต้องผ่านเกณฑ์การสอบร้อยละ 90 จากเดิมกำหนดข้อสอบไว้ 30 ข้อ เกณฑ์สอบผ่านเพียงร้อยละ 75
การกำหนดให้การต่ออายุใบขับขี่เมื่อครบ 5 ปี ต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบ และเพิ่มการอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับรถและข้อกฎหมาย เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้กับผู้ขับขี่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของวินัยการขับขี่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดปัญหาการจราจร ที่เกิดจากผู้ขับขี่ไร้จิตสำนึกในเรื่องวินัยจราจร
นายอัฌษไธค์ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนมีความประสงค์ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังต้องมีการจองคิวในการเข้าทดสอบขอรับใบอนุญาตขับรถ ที่สำนักงานพื้นที่ต่าง ๆ ของกรมฯ ตนจึงมีแนวคิดในการลดขั้นตอน โดยอยู่ระหว่างจัดหาสถาบันการศึกษาของรัฐมาช่วยในการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องการขับรถและข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้กับผู้ที่ต้องการสอบใบขับขี่ ซึ่งประชาชนจะมีความสะดวกยิ่งขึ้น คือสามารถเลือกเวลาเข้ารับการอบรมได้โดยสะดวก แล้วค่อยนำผลรับรองการอบรมมายื่นขอทดสอบใบขับขี่ที่กรมฯ หากทำการทดสอบผ่านจะได้รับใบอนุญาตทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาอบรมอีก 4 ชั่วโมง