ในตอนที่แล้วพูดถึงวิธีเลือกเส้นทางในการปั่นจักรยานไปแล้ว มาตอนนี้เรามาพูดถึงวิธีการปั่นกันบ้างดีกว่าครับ
สิ่งที่ต้องสังเกตและระวัง ระหว่างปั่นจักรยานบนถนน
-ป้ายรถประจำทาง ถึงบางที่จะไม่มีคนรอรถที่ป้าย แต่อยากระวังหลังสักนิด เพราะอาจจะมีพวกรถเมล์ รถตู้ รถแท๊กซี่ปาดเข้าซ้ายมาจอดป้ายเพื่อส่งผู้โดยสาร
-คนยืนริมฟุตบาท มีเป็นไปได้อยู่ 2 กรณี ข้ามถนนกับเรียกรถ ตรงนี้ระวังเรื่องรถปาดเหมือนป้ายรถประจำทาง หรือบางทีเขาข้ามถนนไม่ทันดู ทางที่ดีเมื่อเห็นคนยืนอยู่ริมฟุตบาทควรชะรอความเร็วลง มองให้รอบๆค่อยๆผ่านไปครับ
-รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง ขณะที่คนขับนั่งอยู่ในรถ เพราะเราไม่รู้เลยเขาจะออกรถเมื่อไร ควรมีบอกสัญญาณมือเสียงกริ่งให้เขารับรู้ว่าเรากำลังจะปั่นผ่าน เขาจะได้ระวังและไม่ได้ออกรถมาชนเฉี่ยวเรา
-ทางโค้งต่างๆในกรุงเทพ ทาง กทม.เขาได้ทำการทาแถบสีนูนเพื่อเตือนรถยนต์และให้ลดความเร็วลง ตรงช่วงนี้ชาวจักรยานต้องสังเกตุให้ดีช่วงแถบสี จะมีช่องว่าง ระหว่างขอบทางกับแถบสี กว้างประมาณ 1 ฟุตทั้ง2 ด้าน ซึ่งพอที่เราจะปั่นจักรยานได้แถมปลอดภัยและไม่พบความสะเทือนเหมือนกับพื้นถนนอีกด้วย(ถ้าเราผ่านไปตรงๆจะเป็นการกินแรงปั่นเราไปมากกว่าโดยเสียเปล่าแถมยังสั่นสะเทือนอีกด้วย)
-ถนนส่วนบุคคลหรือถนนบางแห่งที่รถสามารถจอดได้ อยากระวังให้ดีอาจมีสุนัขนอนอยู่ใต้รถ พอเราปั่นจักรยานผ่านมันอาจไล่กวดไล่กัดเรา จนทำให้เราเกิดอันตรายได้ ดังน้นเมื่อสังเกตุเห็นสุนัขควรระวังถ้าหลีกเลี่ยงเส้นทางได้ก็ควรเปลี่ยนไม่งั้นต้องเว้นระยะห่างไกลจากที่มันนอน หากถนนเป็นซอยทางแคบก็ควรสังเกตุดูรถสวนไปมาด้วย รถตามหลังไม่ใช่ห่วงแต่เรื่องสุนัขเพียงอย่างเดียว
-ไม่ควรปั่นแซงรถตู้ รถเมล์ รถแท๊กซี่ที่ กำลังจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ควรหยุดรอจนรถเขาออกไป เพราะตอนเราแซง คนขับรถอาจจะมองไม่เห็นเราเพราะเป็นมุมอับสายตาทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายถ้าคิดจะแซง
-เมื่อเจอลูกระนาดทางขรุขระเล็กน้อยๆ ไม่ต้องปั่นแต่เราควรใช้แรงเฉื่อยในการปั่นข้ามไปเพื่อลดแรงสะเทือน และลดการใช้แรงโดยเปล่าประโยชน์ ใช้พลังงานมากกว่าปั่นบนพื้นปกติด้วย
-การปั่นไปที่ไม่คุ้นเคยหรือพื้นที่ชุมชน บางแห่งอาจมีสุนัขจรจัดรวมอยู่กันเป็นกลุ่มได้ ต้องสังเกตุให้ดีก่อนจะผ่าน เพราะมันอาจรุมไล่กวดไล่กัดเราได้ ทางที่ดีควรหาไม้หรือแป๊ปเหล็กติดไปเอาไว้ด้วย(เพื่อขู่นะครับ) หรือขอความช่วยเหลือจากคนในพื้นที่ เพื่อช่วยให้เราผ่านไปได้อย่างปลอดภัย เพราะโดยทั่วไปแล้วสุนัขมักห่วงถิ่นห่วงเขตเมื่อพ้น ระยะซักไม่กี่ร้อยเมตร มันก็จะเลิกตามเราเอง