รถคันโปรดของคุณ บางครั้งไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ และบ่อยครั้งคุณอยากทะนุถนอมรถคันเก่งด้วยตัวคุณเอง โดยเฉพาะการล้างรถ... เรื่องที่ดู เหมือนใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าจะทำให้ถูกวิธีล่ะ
เดี๋ยวนี้สะดวกสบายกันมากขึ้น สำหรับการทำความสะอาดรถแต่ละครั้ง เพราะมีการให้บริการทั้งแบบอัตโนมัติ และแบบอัตโนมือ กันให้เกร่อ แต่หลาย ๆ คน ก็ต้องการดูแลทะนุถนอมรถที่รัก ดุจดวงใจด้วยตัวเอง เรามีวิธีล้างรถให้ได้อย่างมืออาชีพมาแนะนำกัน
1.หลาย ๆคนคงเจอกับตัวเองที่เข้าไปล้างรถตามปั๊มแล้วเจอจะๆ กับเครื่องทำฟอง นัยว่าเพื่อให้รถสะอาดมากขึ้น แต่พอหันไปดูก็ชัด ๆ เลยครับ แฟ๊บกล่องเบอเริ่ม เสร็จสิครับล่ะที่นี้ ทั้งแว๊กที่เคลือบออกมาจากโรงงาน และสีพังหมด ยังไม่เห็นกันที่หรอกครับ พวกนี้ต้องใช้เวลาพอนานๆ เข้า ความคิดที่จะประหยัดเพราะเห็นถูกดี 50-70 บาท ต้องมาตามแก้กันเสียเงินหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้น จำไว้ให้ดีว่า หากคิดจะล้างรถเองแล้ว ต้องเลือกสรรแชมพูหรือน้ำยาล้างรถที่ใช้เฉพาะเพื่องานนี้ ซึ่งไม่ยากแล้ว มีขายกันถมเถไป
2.ในสภาพปกติ สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วที่จะทำความสะอาดรักษารถของคุณ แต่สิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ เมืองไทยเนี่ยอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้และนกนี่เต็มไปหมด ทั้งยางไม้และมูลนกเนี่ย มีฤทธิ์ทำลายทั้งแว๊กและสี ใส่ใจสักนิดอย่าปล่อยทิ้งไว้ รีบทำความสะอาดจุดนั้นทันทีเมื่อมีเวลา
3.เรื่องนี้คงหลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับเมืองร้อนอย่างไทย ข้อแนะนำในการล้างรถประการหนึ่งก็คือ พยายาม อย่าล้างรถภายใต้แสงแดด ก็คงต้องเลือกล้างรถกันในยามแดดร่มลงตกล่ะครับ หลาย ๆ คนเชื่อว่า ไม่ให้ล้าง กลางแดดก็เพื่อหยดน้ำมีสภาพเหมือนเลนส์นูน พอแดดส่งผ่านก็จะไปโฟกัสความร้อนที่สีรถพอดี ซึ่งผลกระทบตรงนี้นั้นน้อยมากครับ เพราะการล้างรถจริง ๆ คงไม่มีใครปล่อยให้รถแห้งเองหรอก แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ ก็คือบางส่วนของรถจะแห้งเร็วเกินไป ยังไม่ทันฉีดน้ำไล่สิ่งสกปรกหลังล้างด้วย แชมพูก็แห้งแล้ว ทำให้สีรถไม่สะอาดอย่างที่ควรจะเป็นเทคนิคที่พอจะช่วยได้ก็คือให้จอดรถล้างในที่ใกล้ๆ น้ำซึ่งจะใช้ล้างรถให้เริ่มล้างจากบนสู่ล่าง และชิ้นส่วนที่เป็นอย่างก็อย่าเพิ่งให้ความสนใจมากนัก เรามาเก็บกันเป็นจุด ๆ ตอนหลังได้
4.อีกขั้นตอนหนึ่งก็คือล้อและยาง หลาย ๆ คนคิดว่า ล้างล้อและยางก็เพื่อให้ยางมันไม่ดูกระด่าง กระดำ ไม่น่าชม แต่จริง ๆ แล้วการให้ความสำคัญกับการล้างตรงจุดนี้ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานชิ้นส่วน หลายด้วยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยางล้อ สีของแม็กซ์หรือกระทะล้อ รวมถึงผ้าเบรก และดิสค์เบรก ที่ทำงาน ให้กับเราทั้งวันในขณะขับขี่ วิ่งทั้งวันก็ต้องมีสกปรกกันบ้างล่ะ และสเปรย์เคลือบเงายางรถก็คงต้องเลือก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานตรงจุดจริงๆ
5.ล้างรถจนครบสกปรกและฝุ่นละอองหมดไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาทำให้รถเงางามด้วยการเคลือบสีรถ เดี๋ยวนี้ การวิ่งไปศูนย์บริการเพื่อขัดเคลือบสีรถก็ราคาไม่ถูก หากมีเวลาก็ทำเองได้ น้ำยาขัดเคลือบสีรถเกรดเอ หนึ่งขวด ไม่อยู่ในงบไม่เกิน 1,000 บาท แต่ใช้ได้นานจนคุ้ม แต่ต้องยอมรับว่างานเคลือบสีรถด้วยตัวเอง ที่ต้องใช้ความฟิตพอสมควร เพราะน้ำยายี่ห้อไหนที่ว่าแน่ ๆ ขัดเบา ๆ ก็ออก เอาเข้าจริงเล่นเอาเหนื่อย เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำ เพราะการเคลือบเงาเป็นวิธีการหนึ่งที่ป้องกันหรือลดกระบวนการเกิดสนิม (Oxidation) ได้ การขับเคลือบเงาก็มีกลยุทธ์เฉพาะเช่นกัน ประการแรกเลย ต้องทำในที่ร่วม เพราะน้ำยา พวกนี้ทำปฏิกิริยากับแสงแดดโดยตรง น้ำยาขัดเคลือบเงาเกือบทุกยี่ห้อจะระบุข้อบ่งใช้ตรงนี้ชัดเจน เสียหาย ก็โทษใครไม่ได้จริงๆ ครับ การเคลือบสีต้องทำหลังการล้างรถทุกครั้งอย่าลืมนะครับว่าการเคลือบสี ต้องมี การขัด หากมีสิ่งปกปรกที่แข็งสักหน่อย อาจเกิดรอยที่ไม่พึงปราถนาบนสีของรถคุณได้ เลือกใช้ผ้านุ่ม หรือ อุปกรณ์ในการเคลือบที่เฉพาะเจาะจงสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ การขัดเคลือบสีด้วยตัวเองไม่เหมือนกับเอารถ เข้าบริการที่ศูนย์เฉพาะกิจด้านนี้นะครับ ที่ศูนย์เราจ่ายแพงแต่เขาทำให้ครบเซ็ท อะไรที่เป็นรอยขนแมว ไปเฉี่ยวอะไรมาเบา ๆ พอเข้าศูนย์รับรองหายหมด แต่สีรถคุณก็จะบางลง ซึ่งมีขั้นตอนการเคลือบแว็ก เข้ามาช่วย ดังนั้น การเคลือบสีด้วยตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ สำหรับรอยขนแมว แต่ก็สามารถลดลงได้ หากใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่าใจร้อน รอให้แห้งแล้วค่อยขัด และการขัดก็ให้หมุนเป็นวงกลม พลิกผ้าบ่อย ๆ เพื่อให้ได้ด้านผ้าที่สะอาดที่สุดในการขัดแต่ละจุด และก็อย่าเหนื่อยนะครับ บางคนพอขัดเสร็จลากผ้า ออกมาจากตัวถัง แทนที่จะเงาก็ไม่เงากันพอดี
6.เสร็จสิ้นกันสำหรับการล้างสี ก็มาถึงภายในที่ก็คงมีกระบวนการไปแตกต่างกัน แต่จุกจิก และเก็บรายละเอียด มากหน่อย เพราะภายในรถมีซอกเล็กซอกน้อยจำนวนมาก อุปกรณ์หลักก็เห็นจะเป็นเครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะ ถ้าเป็นเบาะกำมะหยี่ เครื่องดูดฝุ่นอย่างเดียวก็สะอาดเกินพอ ผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ เช็ดที่ขอบประตู ขอบหน้าต่าง ชิ้นส่วนที่เป็นหนัง พลาสติก หรือยาง ถ้าจะให้ดูดีก็ใช้น้ำยาขัดเงาที่ใช้เฉพาะงานนี้โดยเฉพาะ ลงเอา ซึ่งก็ควรจะทำ เพราะแสงแดดร้อน ๆ อย่างเมืองไทย จะช่วยทำให้อายุการใช้งานของชิ้นส่วนเหล่านี้ ยากขึ้น แต่ก็แนะนำนะครับว่า ใครที่มีพวงมาลัยแบบหุ้มยางหรือหนัง แค่ผ้าชุดน้ำเช็ดทำความสะอาด ก็น่าจะเพียงพอ หากเคลือบเงาลงไป เวลารถจอดตากแดดมันจะเหนียวมือไปหมด ประการสำคัญในการ ทำความสะอาดภายในก็คือ หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดสำหรับการนำน้ำยาทำความสะอาดหรืออะไรก็ตาม ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียไปเช็ดทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัย