จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ สื่อหลายสำนักต่างก็ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์มารายงานให้ประชาชนได้รับทราบกันอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทว่าขณะนี้มวลน้ำกำลังจะไหลมาที่ใด หรือ น้ำท่วมที่ไหนบ้าง และทุกครั้งที่เราฟังรายงานข่าวน้ำท่วม ไม่ว่าจากสำนักข่าวหรือหน่วยงานต่าง ๆ แน่นอนว่าเราจะต้องได้ยินการรายงานระดับน้ำในพื้นที่นั้น ๆ เช่น พื้นที่นั้นน้ำท่วมขัง 20 เซนติเมตรบ้าง พื้นที่นี้น้ำท่วม 50 เซนติเมตรขึ้นไปบ้าง
แต่ว่าเอ๊...ไอ้น้ำท่วม 20 เซนติเมตร หรือ 50 เซนติเมตรขึ้นไปตามที่ได้ยินในข่าวนี่ มันสูงเท่าไหร่กันหนอ? รถจะผ่านได้หรือเปล่า? ในวันนี้เรามีระดับความสูงของน้ำ มาช่วยไขข้อสงสัยเหล่านั้นให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีเหตุต้องสัญจรในบริเวณน้ำท่วมกัน
1. ระดับความสูงของน้ำ 10 - 30 เซนติเมตร
ความสูงของระดับน้ำ 10 - 30 เซนติเมตร ถ้าจะให้เปรียบให้เห็นภาพก็ประมาณขอบฟุตบาทตามถนน หรือ ถ้าจะวัดกับความสูงของคน ก็จะอยู่ประมาณเลยตาตุ่มขึ้นมาจนถึงกลางหน้าแข้ง ซึ่งระดับน้ำในขนาดนี้ "รถเล็ก (รถเก๋ง รถกระบะ)" ยังสามารถวิ่งได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถเก๋งอาจมีปัญหาเล็กน้อย เพราะคุณอาจได้ยินน้ำกระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถ แต่คุณก็ยังคงขับต่อไปได้เรื่อย ๆ โดยยังไม่มีปัญหาใด ๆ
2. ระดับความสูงของน้ำ 20 - 40 เซนติเมตร
ความสูงของระดับน้ำ 20 - 40 เซนติเมตร ถ้าจะให้เปรียบให้เห็นภาพก็สูงในระดับเทียบเท่ากับขอบประตูของรถเก๋งทั่วไปที่มีระยะสูงจากพื้น 150-170 ม.ม. หรือ หากวัดกับความสูงของคนก็ประมาณหัวเข่าขึ้นไปจนถึงต้นขา ซึ่งระดับน้ำขนาดนี้ รถเก๋งจะไม่สามารถวิ่งได้แล้ว เพราะท่อไอเสียนั้นจะจมน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่รถขนาดใหญ่ เช่น รถเมล์ รถทหารยังสามารถวิ่งได้ ส่วนรถกระบะนั้นก็ยังพอวิ่งได้
3. ระดับความสูงของน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร
ระดับความสูงของน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร ระดับน้ำขนาดนี้ รถกระบะทั่วไปนั้นอาจสามารถวิ่งได้อยู่ แต่ก็ต้องลุ้นพอสมควร โดยที่สำคัญคือต้องระวังเรื่องคลื่นของน้ำ ซึ่งอาจลอยมากระทบตัวรถจนทำให้น้ำสูงขึ้นมาชั่วขณะ แต่อาจเข้าตัวเครื่องยนต์ได้ ซึ่งระดับน้ำขนาดนี้ก็ต้องปิดระบบปรับอากาศขณะขับเท่านั้น
4. ระดับความสูงของน้ำ 60 - 80 เซนติเมตร
ระดับความสูงของน้ำ 60 - 80 เซนติเมตร บอกได้เลยว่าเป็นอันตรายกับรถทุกประเภทแน่นอน ไม่เว้นแม้กระทั่งรถใหญ่ทั้งหลาย เพราะน้ำอาจมีสิทธิไหลเข้ากรองอากาศได้ง่ายกว่า เพราะถ้าน้ำไหลเข้ากรองอากาศแล้ว สามารถทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงักและสร้างความเสียหายต่อระบบต่าง ๆ ได้ ดังนั้น หากรู้ว่าจะต้องขับลุยน้ำความสูงขนาดนี้ ก็ให้หาอะไรมาปิดตัวถังด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ากรองอากาศ แต่ที่สำคัญ คือ พยายามอย่าขับปะทะคลื่นโดยตรง และขับช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางคัน โดยระดับความสูงของน้ำขนาดนี้ คงต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาแล้ว
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เวลาดูข่าว คงหายสงสัยกันแล้วนะคะว่าระดับน้ำตามที่รายงานข่าวนั้นสูงเท่าไร แล้วรถสามารถวิ่งได้ไหม แต่เพื่อเป็นการป้องกัน หากหลีกเลี่ยงไม่ขับรถลุยน้ำได้ก็จะดีที่สุด