ฮอนด้าสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2555 และยังคงครองแชมป์ยอดขายต่อเนื่อง โดยมียอดขายสะสมรวม 5 เดือนแรกของปี (เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2556) สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ความสำเร็จนี้ล้วนเป็นผลมาจากการทำตลาดเชิงรุก เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ด้วยการเปิดตัวรถยนต์มากที่สุดถึง 12 รุ่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากการกลับมาเดินสายการผลิตตามปกติของโรงงานฮอนด้าที่อยุธยา เมื่อต้นเดือนเมษายนปีที่แล้ว รถยนต์ในกลุ่มซับคอมแพคท์ที่โดดเด่นที่สุดของฮอนด้าที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วประเทศในเรื่องรูปลักษณ์การออกแบบ และสมรรถนะคือฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งมียอดขายจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้นกว่า 120,000 คัน (ยอดการจำหน่ายซิตี้ เมษายน 2555 - พฤษภาคม 2556)
สำหรับในปี 2556 ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอยนตรกรรมระดับคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2556 นี้ ความต้องการของตลาดในรถยนต์เซกเม้นต์อื่นๆ ในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโต โดยฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ฮอนด้า แอคคอร์ด ยนตรกรรมสุดหรู เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาภายใต้แนวคิด "ที่สุดแห่งความปรารถนา" ก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมอย่างดีเยี่ยม ทำให้มียอดจองมากกว่า 10,000 คันภายในเวลายังไม่ถึง 3 เดือน
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฮอนด้าขอขอบคุณลูกค้าฮอนด้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ฮอนด้า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเรา ฮอนด้าจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า การผลิตที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการยกระดับการให้บริการครอบคลุมทุกด้าน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดสำหรับลูกค้าของเรา นอกจากนี้ ฮอนด้าจะเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ให้กับสังคม เพื่อตอกย้ำพันธสัญญาของฮอนด้าในการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างสังคมไทย มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 นี้ ฮอนด้ายังได้เตรียมจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เพื่อเชื่อมโยงความผูกพันและแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้า ตลอดจนกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย"
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ฮอนด้ามุ่งเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการใช้ยนตรกรรมฮอนด้าด้วย 3 แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด แอพพลิเคชั่นยานยนต์อัจฉริยะ (HondaLink) แอพพลิเคชั่นการติดต่อขอความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (Honda RSA) และแอพพลิเคชั่นระบบนำทาง (HondaLink Navigation) โดย HondaLink ได้รับการออกแบบให้มีความสนุกในการใช้งานเพื่อให้รถเป็นเสมือนเพื่อนคู่ใจ ลูกค้าสามารถตั้งค่าตามต้องการ เช่น การป้อนข้อมูลชื่อรุ่นและปีของรถยนต์ฮอนด้า ตั้งชื่อให้แก่รถยนต์ และปรับแต่งสีภาพกราฟฟิกของรถที่ชื่นชอบ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ และสิทธิพิเศษต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกและเพลิดเพลิน การพัฒนาแอพพลิเคชั่นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ฮอนด้ามุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสะท้อนภาพลักษณ์ของความเป็นแบรนด์แห่งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาโดยตลอด HondaLink จะเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารใหม่ที่เชื่อมโยงลูกค้าและฮอนด้าเข้าไว้ด้วยกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น"
แอพพลิเคชั่น HondaLink ยังต่อยอดความประทับใจในการใช้งานด้วย 3 ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น ประกอบด้วยการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรถ (Car Log) ช่วยบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรถและการใช้งานอย่างละเอียด พร้อมเรียกดูข้อมูลได้อย่างสะดวกตามลำดับเวลาเช่น ข้อมูลการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการตรวจเช็ครถยนต์ตามระยะทาง และอื่นๆ การแสดงผลข้อมูลเป็นสถิติ (Statistics) นำเสนอสถิติข้อมูลเกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และโอโดมิเตอร์ซึ่งเป็นลูกเล่นภาพกราฟฟิกแสดงระยะทางการขับขี่เทียบกับระยะทางรอบโลกที่ชัดเจนและสวยงาม ระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษา (Maintenance) ซึ่งลูกค้าจะได้รับข้อความจากฮอนด้าหรือผู้จำหน่าย เพื่อแจ้งเตือนในการนำรถเข้าตรวจเช็ค ทั้งการบำรุงรักษาตามระยะ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ตลอดจนการเปลี่ยนอะไหล่ เช่น ยางรถ แบตเตอรี่ หรือแผ่นกรองอากาศ โดยแสดงรายละเอียดวันที่เข้ารับบริการ ชื่อศูนย์บริการ ค่าใช้จ่าย เป็นต้น รวมทั้งแจ้งเตือนการต่อทะเบียนรถยนต์
วันครบกำหนดชำระค่างวดรถยนต์ กำหนดชำระค่าประกัน เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดการทำธุรกรรมสำคัญๆ ทั้งยังเข้าถึงข้อมูลโปรโมชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าด้วย แอพพลิเคชั่นการติดต่อขอความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (Honda RSA) อีกแอพพลิเคชั่นหนึ่งซึ่งเชื่อมต่อกับ HondaLink สามารถบอกพิกัดตำแหน่งรถที่จอดเสีย เพื่อให้ลูกค้าติดต่อรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากฮอนด้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดย HondaLinkจะทำงานเชื่อมต่อกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และจะส่งเจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และอุ่นใจกับฟีเจอร์ Tracking Provider ที่ให้ลูกค้าสามารถติดตามพิกัดตำแหน่งของรถจากศูนย์ฯ ขณะเดินทางมาให้ความช่วยเหลือยังจุดเกิดเหตุได้อีกด้วย
และสำหรับ "แอพพลิเคชั่นระบบนำทาง" (HondaLink Navigation) สามารถแจ้งสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ โดดเด่นด้วยระบบการค้นหาจุดหมายปลายทางแบบอิสระ (Free word search) เพียงพิมพ์ชื่อสถานที่ที่ต้องการก็สามารถค้นหาข้อมูลการเดินทางได้ทันที และการแนะนำการขับรถในช่องจราจรที่ถูกต้อง (Lane Info) ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบเส้นทาง วางแผนการเดินทาง และบอกระยะทางจนถึงจุดหมายปลายทางได้แบบเรียลไทม์ สำหรับแอพพลิเคชั่น HondaLink Navigation พร้อมให้ดาวน์โหลดทดลองใช้ฟรี 30 วัน (นับตั้งแต่วันที่ดาวน์โหลด) จากปกติจะมีค่าบริการ 39 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1,200 บาท)** สำหรับการใช้งานนาน 3 ปี
สำหรับลูกค้าฮอนด้า สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HondaLink แอพพลิเคชั่น Honda RSAและแอพพลิเคชั่น HondaLink Navigation** ได้จากแอปเปิ้ล แอพสโตร์ หรือกูเกิลเพลย์ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถลงทะเบียนเมื่อออกรถใหม่ หรือเมื่อนำรถไปเข้ารับบริการที่ศูนย์ฮอนด้าทั่วประเทศ เพื่อให้ข้อมูลการนำรถเข้าบำรุงรักษาเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นโดยอัตโนมัติ และสามารถเลือกศูนย์บริการที่เข้ารับบริการเป็นประจำให้เป็น My dealer เพื่อรับบริการแจ้งเตือนการนำรถยนต์เข้าตรวจเช็คและรับทราบข้อมูลสิทธิพิเศษจากฮอนด้า สำหรับผู้สนใจทั่วไปสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HondaLink ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเพลิดเพลินกับรถคู่ใจได้เช่นเดียวกัน ทั้งฟีเจอร์ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรถการสรุปข้อมูลเป็นสถิติ (Statistics) และระบบแจ้งระยะเวลาบำรุงรักษา (Maintenance)***
หมายเหตุ
* ระบบปฏิบัติการที่รองรับแอพพลิเคชั่น HondaLink สำหรับ iPhone iOS ตั้งแต่ 5.0 ขึ้นไป และ Android OS ตั้งแต่ 2.3.4 ขึ้นไป ส่วน HondaLink Navigation สามารถดาวน์โหลดได้จาก Apple App Store เท่านั้น
** สำหรับแอพพลิเคชั่นระบบนำทางจะมีค่าใช้จ่าย 39 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1,200 บาท) โดยสามารถใช้งานได้ 3 ปี
*** สำหรับผู้สนใจทั่วไปต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์เอง ระบบจะไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการบำรุงรักษากับรถยนต์ได้โดยอัตโนมัติ