ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “คณะกรรมการได้พิจารณาตัดสินรถที่ชนะการประกวด โดยกำหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนอย่างชัดเจน ทั้งในด้านความสวยงาม การดูแลรักษารถไว้ในสภาพเดิมได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น สีรถ ยาง เบาะ สมรรถนะเครื่องยนต์ และอื่นๆ รถที่ได้รับรางวัลในปีนี้จึงถือเป็นรถที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสม
     โดยผู้ชะเลิศรางวัลประเภทต่างๆ แบ่งเป็น รถโบราณก่อนปี 1940 รางวัลตกเป็นของ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เจ้าของรถ Austin Seven (Chummy) ปี 1929 ขนาดเครื่องยนต์ 747 ซีซี ผลิตในประเทศอังกฤษ
           รถหลังสงคราม ระหว่างปี 1940-1955 ผู้ที่ได้รับรางวัลคือ กุลวัฒน์ โชติช่วง เจ้าของรถ Citroen 2CV Van ปี 1955 ขนาดเครื่องยนต์ 600 ซีซี ผลิตในประเทศฝรั่งเศส
           ส่วนรถคลาสสิคแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รถเก๋ง 4 ประตู รางวัลตกเป็นของผู้ส่งประกวดที่ใช้ชื่อว่า Auto Vintage เจ้าของรถ Mercedes-Benz 250S W108 ปี 1966 ขนาดเครื่องยนต์ 2,496 ซีซี จากประเทศเยอรมนี และรถสปอร์ท 2 ประตู ผู้ได้รับรางวัล คือ Auto Vintage เจ้าของรถ Mercedes-Benz 280SE W111 Coupe ปี 1969 ขนาดเครื่องยนต์ 3,500 ซีซี จากประเทศเยอรมนี
       รถโฟล์คสวาเกนของ ชลิล ปาลเดชพงศ์ เจ้าของรถ Volkswagen Beetle Oval Window ปี 1957 ขนาดเครื่องยนต์ 1,100 ซีซี จากประเทศเยอรมนี
       รถอเมริกัน ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์รับรางวัลที่ 1 สำหรับรางวัลที่ 2 ตกเป็นของ ไพบูลย์ เวทย์วิวัฒนะ
       เจ้าของรถ Ford Mustang ปี 1965 ขนาดเครื่องยนต์ 3,200 ซีซี ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา
 และรางวัลรถสภาพเดิมยอดเยี่ยม ได้แก่ พล.อ.อ.จรรย์ จุลชาต เจ้าของรถ Wolseley Siddeley Special Light 2-Seater ปี 1909 ขนาดเครื่องยนต์ 3,705 ซีซี ผลิตในประเทศอังกฤษ