รองรับงานในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ
นิสสัน เทคนิคคอล เซ็นเตอร์ เซาท์อีสท์ เอเชีย รับผิดชอบดูแลงานในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตรถยนต์ 6 แห่ง โดยภายในปี 2558 จะรับหน้าที่ด้านการวิจัยและพัฒนายานยนต์ทุกรุ่น ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตลาดอาเซียนทุกขั้นตอน หลังกระบวนการออกแบบทางกายภาพ ซึ่งในปัจจุบัน กระบวนการเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดทั่วโลกในประเทศญี่ปุ่น
พร้อมกันนี้ ระหว่างปี 2553 - 2559 นิสสัน เทคนิคคอล เซ็นเตอร์ เซาท์อีสท์ เอเชีย อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มจำนวนบุคลากรขึ้น 3 เท่า เป็น 370 คน ดังนั้น แผนการขยายธุรกิจดังกล่าวจะส่งผลให้ นิสสัน สามารถพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคอาเซียนได้ดียิ่งขึ้น ขานรับความต้องการของตลาดได้เร็วขึ้น นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ นิสสัน เพื่อสร้างแต้มต่อในการแข่งขันทางการตลาด
ศูนย์ทดสอบยานยนต์นอกประเทศญี่ปุ่นลำดับที่ 3
ก่อนหน้านี้ นิสสัน ได้ก่อตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์นอกประเทศญี่ปุ่นขึ้นเป็นแห่งแรก ณ มลรัฐแอริโซน่า นั่นคือ Arizona Test Center ประเทศสหรัฐอเมริกา และแห่งที่ 2 คือ Aguascalientes Test Track ในอากวัสกาเลียนเตส ประเทศเม็กซิโก และล่าสุดได้ก่อตั้งสนามทดสอบสมรรถนะยานยนต์แห่งใหม่ขึ้นในประเทศไทย ณ ถนนบางนา-ตราด กม.22
นิสสัน เทคนิคคอล เซ็นเตอร์ เซาท์อีสท์ เอเชีย นับเป็นสนามทดสอบแห่งแรกในทวีปเอเชีย ครอบคลุมพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร พร้อมจำลองสภาพผิวถนนจากทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 14 รูปแบบ โดยได้จำลองสภาพถนนไทย ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ไว้ถึง 5 รูปแบบ อาทิ ผิวถนนบางนา-ตราด ที่มีรูปแบบคล้ายคลื่น ทั้งยังสามารถรองรับความเร็วสูงสุดเมื่อขับขี่ทางตรงได้สูงถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเหมาะสำหรับการทดสอบสมรรถนะยานยนต์หลากหลายรูปแบบ เพียงปรับเปลี่ยนการจัดพื้นที่บริเวณลานอเนกประสงค์รูปวงกลม ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 100 เมตร
สำหรับสำนักงานใหม่ของ นิสสัน เทคนิคคอล เซ็นเตอร์ เซาท์อีสท์ เอเชีย ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยแห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นเสมือนบ้านของทีม 'โมโนซูกูริ' ซึ่งเป็นทีมงานระดับมืออาชีพด้านการออกแบบ สร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ของ นิสสัน
"นิสสันในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างสรรค์สังคมที่เติบโตอย่างยั่งยืน เราได้ออกแบบอาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 40 เพื่อร่วมลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในระดับองค์กร" มร. ชิซุตะ กล่าวทิ้งท้าย