ปัญหาจราจรเป็นปัญหาที่เมืองต่างๆ ทั่วโลกต่างแบกรับ 22 กันยายนของทุกปี จึงกำหนดให้เป็น "คาร์ ฟรี เดย์" เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่บนท้องถนน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางด้วยการจอดรถไว้บ้าน หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาจราจร ลดโลกร้อน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนเมือง

กรุงเทพมหานคร ก็เป็นอีกเมืองที่นับวันปัญหาจราจรทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะถนนที่มีไม่เพียงกับจำนวนรถที่เพิ่มแบบก้าวกระโดดขึ้นทุกปี ล่าสุด ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกระบุว่า มีรถจดทะเบียนสะสมในกรุงเทพฯ กว่า 8,000,000 คัน ส่วนรถจดทะเบียนใหม่ปี 2556 ณ เดือนกรกฎาคม มีมากถึง 715,341 คัน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละกว่า 100,000 คัน

ปีนี้ กทม.ได้จัดงาน "บางกอก คาร์ ฟรี เดย์"ขึ้นในวันที่ 22 กันยายน ภายใต้แนวคิด "Share the Road" หรือ "เดินทางร่วมกัน วันพาหนะส่วนรวม" โดยมุ่งหวังให้ประชาชนตื่นตัว

ความพิเศษของการจัดงานคือ การจำหน่ายเข็มกลัดให้กับประชาชนทั่วไปในราคาชิ้นละ 50 บาท ประชาชนที่ติดเข็มกลัดนี้สามารถเดินทางโดยใช้บริการระบบขนส่งมวลชนฟรี ได้แก่ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถโดยสารบีอาร์ที รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ รถประจำทาง ขสมก. เรือด่วนเจ้าพระยา จักรยานเช่าสาธารณะปันปั่น และรถรางรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ 50 สำนักงานเขต, BMA Express, บูธจักรยาน ปัน ปั่น และธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ รายได้จากการจำหน่ายมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา

คาร์ ฟรี เดย์ ถือเป็นงานประจำปีที่จะได้ร่วมฉลองชัยของชีวิตในเมืองและพื้นที่สาธารณะ ชีวิตที่เป็นอิสระจากกมลพิษทางเสียง ควันดำ และความเคร่งเครียดจากการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยการเน้นประโยชน์ที่ได้จากการสัญจรด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน และใช้ขนส่งมวลชน ทำให้ถนนของเราเป็นพื้นที่ของการใช้ชีวิตมากกว่าเป็นเพียงทางผ่าน วันที่ 22 กันยายน เชิญชวนทุกคนร่วมกิจกรรมตั้งแต่เวลา 08.00 น. จะมีการรณรงค์ใหญ่ที่ท้องสนามหลวง โดยมีการรวมพลังของกลุ่มผู้ใช้จักรยาน 20,000 คัน จาก 23 เส้นทางปั่นจักรยานทั่วกรุงเทพฯ มุ่งสู่ท้องสนามหลวง และจัดริ้วขบวนเป็นรูปธงชาติไทยเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของบางกอก คาร์ ฟรี เดย์ 2013 และปั่นไปสู่ลานกิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีนิทรรศการ กิจกรรมเวทีและการออกบูธต่างๆ มากมายรออยู่ เพียงแค่เสียสละด้วยการจอดรถยนต์ไว้ที่บ้าน ออกไปสร้างสรรค์ความสุขส่วนรวม