นายโมโตโอะ มูราคามิ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสำนักบริหาร บริษัท ซูซูกิมอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวในงานประชุมผู้แทนจำหน่ายในไทยว่าซูซูกิได้ปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการบุกตลาดจักรยานยนต์ในไทยและทั่วโลก
    ทั้งนี้ หลังส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ซูซูกิลดลงอย่างมากช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากที่เคยมียอดขายปีละประมาณ 2.5 แสนคันต่อปี ส่วนแบ่งตลาด 12.4% ของตลาดรถจักรยานยนต์รวม แต่ปีที่ผ่านมายอดขายรถจักรยานยนต์ซูซูกิลดเหลือ 7.6 หมื่นคัน และมีส่วนแบ่งตลาดลดเหลือ 3.6% เท่านั้น
    ขณะที่ 7 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยตกลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า มียอดขายรวม 1.43 ล้านคัน แต่ยอดขายจักรยานยนต์ซูซูกิ 7 เดือน อยู่ที่ 3.72 หมื่นคัน ลดลงถึง 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายมูราคามิ กล่าวว่า แผนจากนี้บริษัทจะเน้นเพิ่มยอดขายในกลุ่มรถบิ๊กไบค์ โดยได้เปิดตัวรถบิ๊กไบค์ขนาดกลางขึ้นไป 5 รุ่น จากช่วงที่เหลือของปีนี้ถึงปีหน้า และเตรียมใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถบิ๊กไบค์ขนาดกลางขึ้นไปเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ
    ด้านนายซาโตชิ ยูชิดะ ประธาน บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ กล่าวว่า บริษัทจะเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ใหม่ของซูซูกิในไทย เพื่อเสริมแบรนด์ในไทยให้แข็งแกร่งขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ถึง 10% โดยจะเพิ่ม|การขายรถซูซูกิบิ๊กไบค์ในไทยผลิตและจำหน่ายรถซูซูกิขนาดกลางในไทย ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ

    สำหรับบิ๊กไบค์จะนำเข้ารถบิ๊กไบค์ซูซูกิรุ่นดังที่ผลิตในญี่ปุ่น ได้แก่ GLADIUS 650, V-STROM 650, GSX-R1000 และ HAYABUSA พร้อมเดินหน้าตั้งโชว์รูมบิ๊กไบค์ 7 แห่ง ส่วนรถขนาดกลางจะนำ Inazuma 250 และ BURGMAN 200 เข้ามาจำหน่ายผ่านโชว์รูมซูซูกิมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ
    ส่วนจักรยานยนต์ขนาดเล็กจะนำ ซูซูกิ Raider 150 รุ่นในตำนานมาขายจำนวนจำกัด 1,968 คัน เท่ากับปี ค.ศ.ที่เริ่มผลิตในไทยและนำเสนอรุ่นใหม่ เช่น ซูซูกิ VAN VAN 125