จำนวนผู้เข้าชม : 329 ครั้ง
End Page
 
 
"มือใหม่ หัดขับ" เปิดเทคนิคขับปลอดภัยไปได้ไกลกว่า

ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดยาวและทุกคนต่างก็ใช้เวลาในวันหยุดนี้ เดินทางพักผ่อนด้วยรถคู่ใจ ปีใหม่เป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุ ถนนดูเหมือนจะมีอันตรายเพิ่มขึ้นและเชื่อว่า การเดินทางปีนี้ยิ่งมีการใช้รถใช้ถนนมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยจำนวนรถใหม่ ป้ายแดงรวมถึงนักขับป้ายแดงเพิ่งรับรถที่จองไว้ค้างปีกันในช่วงนี้ ดังนั้น บนนถนนจึงเพิ่มประชากรผู้ที่มีประสบการณ์น้อย ความรู้น้อย อย่างไรก็ตาม การขับรถหากทำตามกฎ ไม่ลัดขั้นตอน มองให้เห็น การเดินทางย่อมปลอดภัยมากขึ้น
 
                     อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ในช่วงปีใหม่ ในมุมมองภาครัฐทั้งตำรวจ สาธารณสุข หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะมองว่า มาจากความประมาท การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เมาแล้วขับ แต่ลึกๆ ก่อนที่คนจะประมาท หรือขับรถเร็วเกินไป บนท้องถนน  อุบัติเหตุจริงๆ เกิดจาก การที่เขาไม่มีโนว์ฮาวในการขับรถ ไม่ได้ผ่านการเรียนรู้ จากแหล่งที่ถูกต้องทำให้มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่นที่เห็นกันอยู่บนถนน เป็นเหตุให้บาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมาก นอกจากนี้ บางครั้งเขาเหล่านั้นก็ยังทำตัวเป็นต้นเหตุให้รถคันอื่นต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอีกด้วย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเราสามารถหาทางป้องกันได้ ไม่ได้เกี่ยวกับกรรมเก่า กรรมใหม่ใดๆทั้งสิ้น
 
                     ก่อนขับรถต้องเตรียมรถ จริงๆ แล้วรถส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็นรถใหม่อายุไม่มาก รถมีความพร้อมใช้อยู่แล้ว ทั้งเครื่องทั้งเบรก หรือแม้กระทั่งยาง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีความรู้ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ เพียงพอแล้วใช้ไม่เกิดประโยชน์รวมถึงใช้ผิดหน้าที่ และมีไว้แต่ไม่เคยใช้มาก่อน เมื่อต้องเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจึงไม่ได้ช่วยให้ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ ให้สนใจยางเป็นพิเศษ ด้วยเหตุที่ว่า รถอะไรก็แล้วแต่แพงแค่ไหนก็แล้วแต่ หาก ยาง ไม่สมบูรณ์ ก็ไม่เกิดความปลอดภัย ยางดังกล่าวนี้ต้องเริ่มตั้งแต่การสูบลม การตรวจสภาพภายนอก และแหล่งที่มาของยาง เช่น ห้ามใช้ยางเปอร์เซ็นต์ หรือยางใช้แล้ว เป็นต้น
 
                     รูปแบบของการชน ของรถในช่วงปีใหม่ จะพบว่า มีอุบัติเหตุหลายรูปแบบ แต่ที่พบมากคือ “การชนท้ายคันหน้า” รถแต่ละคันมีระยะเบรกหยุดไม่เท่ากัน เพราะระยะของการเบรกหยุดจะแปรผันตามความเร็วและสมรรถนะของรถในขณะนั้น การชนท้ายเกิดขึ้นเพราะเบรกไม่หยุด ระยะเบรกไม่พอ เนื่องจากเว้นระยะห่างน้อยเกินกว่าระยะเบรกหยุดของรถนั่นเอง ดังนั้น ควรเว้นระยะห่างคันหน้าอย่างน้อย 4 วินาที เพื่อผู้ขับขี่จะมีเวลาอย่างเพียงพอสำหรับการเบรกหรือสลับช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงการชน ระลึกไว้เสมอว่า รถยนต์สองคันจะชนกันไม่ได้ หากรถมีพื้นที่ว่างเพียงพอ ย้อนมาดูว่า ก่อนที่รถจะชนกัน ผู้ขับขี่จะเหยียบเบรกเพื่อต้องการให้รถหยุด หมายถึงความต้องการพื้นที่ว่าง ดังนั้นในขณะที่ขับขี่ ควรหาที่ว่างรอบๆ ตัวไว้ตลอดเวลา
 
                     การขับด้วยความเร็วที่สูงมักก่อให้เกิดการเลี้ยวไม่เข้าโค้งการหลุดหรือแหกโค้ง ส่วนใหญ่เกิดจากการเข้าสู่โค้งที่ความเร็วเกินโค้ง รวมถึงการมองเห็นช้าเกินไป การขับรถให้ปลอดภัยในทางลักษณะนี้คือ เมื่อต้องขับรถในทางโค้ง ต้องมองไกล ให้เห็นลักษณะของโค้งว่าเป็นอย่างไร ต้องมองโค้งให้เห็นทั้งหมดก่อน จึงจะกำหนดความเร็วของรถ แน่นอนว่าการวิเคราะห์ให้ได้ภาพรวมว่า สภาพแวดล้อมของถนนเอื้ออำนวยให้ขับได้เร็วมากขนาดไหน ค่อยกำหนดความเร็ว ส่วนใหญ่หากทำตามตัวนำนักขับหรือป้ายจราจร ทั้งป้ายเตือนป้ายบังคับ จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
 
                     การขับรถ เราจำเป็นต้องเลือกเส้นทาง ซึ่งมีลักษณะของกฎหมายกำกับอยู่ แต่บางครั้งก็ยังใช้ช่องทางกันผิด เช่น ขับรถช้าในช่องทางแซงรถ เป็นต้น ทำให้เกิดการกีดขวางรถที่ต้องการแซง และรถอื่นๆ จำเป็นต้องหนีไปใช้ช่องทางด้านซ้าย
 
                     กฎหมายกำหนด เส้นทางสำหรับขับ คือช่องชิดซ้ายสุด หากมีถนนหลายช่อง ช่องซ้ายมีรถ การขับก็จะทำในเลนถัดไปช่องขวาถัดไปไว้สำหรับ รถแซง การ "ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับกระแสการจราจร" หมายความว่า ถ้ารถคันหน้าวิ่งเร็วเราก็ควรจะวิ่งเร็ว รถในช่องทางขวาวิ่งเร็วเราก็ควรจะวิ่งเร็วตามกันไป ถ้าใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมกระแสการจราจรจะไหลลื่นไม่กีดขวางรถคันอื่นๆ ทุกวันนี้เราพบว่าต้องเสียเวลามากในการเดินทาง เนื่องจากมีรถหลากหลายพฤติกรรมร่วมใช้เส้นทาง ซึ่ง พฤติกรรมผิดๆ เหล่านี้ ผู้ขับขี่แต่ละคนสั่งสมมาเป็นเวลานานนับสิบปี การขาดข้อมูลข่าวสาร ไม่เข้าใจกฎจราจร ทางออกที่ดีคือ ต้องช่วยกันเป็นตัวอย่างที่ถูก ปัญหาต่างๆ ก็จะค่อยๆ ลดลง
 
                     อาการหลับใน นั้นเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นเรื่องที่เราสามารถป้องกันได้ เพียงเรานอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง จะไม่มีความเสี่ยงเรื่องการหลับในเลย แต่ในช่วงเทศการการฉลองมักทำให้เรานอนดึกตื่นเช้า หรืออดนอนสะสม ทีละเล็กละน้อย ร่างกายของคนจะมีวงจรเปรียบเทียบเฉกเช่นกับนาฬิกา รอบของนาฬิกาคือ 24 ชั่วโมง คนปกติต้องทำงานกลางวันและนอนในเวลากลางคืน ความเหนื่อยล้าหรือร่างกายต้องการพักผ่อนในช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเช้า หรือช่วงบ่าย ระหว่าง 2 ช่วงนี้การขับรถช่วงหลังเที่ยงคืน ถึงเช้าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากกว่าช่วงบ่าย
 
                     การเดินทางไปต่างจังหวัดในเทศกาล ซึ่งต้องขับรถไปไกลๆ ต้องตระหนักถึงความเหนื่อยล้าของร่างกาย การเดินทางในช่วงกลางคืนก็ควรจะจอดพักทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยพักครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที หากรู้สึกง่วงนอนก็ขอให้จอดงีบหลับแล้วค่อยขับต่อ และบรรดา กาแฟ มะนาว เครื่องดื่มหรือยากระตุ้น ที่โฆษณาขายกัน ไม่สามารถสู้กับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาได้  คงมีเพียงการนอนหลับอย่างเพียงพอและการงีบหลับในบางช่วงเท่านั้น ที่จะหลีกเลี่ยงการหลับในได้
 
                     ในขณะที่ขับรถ หากต้องการหยุดรถในช่องทางจราจร ไม่ว่ากรณีใดๆ เมื่อต้องหยุดรถฉุกเฉิน ควรให้สัญญาณไฟฉุกเฉิน เช่นเพื่อเปลี่ยนยาง รถเสีย การจอดรถฉุกเฉิน ยิ่งรถอยู่ในตำแหน่งเสี่ยง เช่นหัวโค้ง บนทางลาดลงสะพาน ยิ่งอันตราย ควรมีการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เช่น ต้องวางสัญญาณเตือนภัยรถอื่นๆ เห็นอย่างน้อย 100 เมตรขึ้นไป บางท่านทำสัญญาณเตือนภัยก็จริงแต่ระยะใกล้มาก พอเห็นสัญญาณก็ช่วยอะไรไม่ได้
 
                     การมองเห็นการหยุดและการจอด ขณะขับรถพยายามชำเลืองมองกระจกส่องหลังบ่อยๆ เพื่อจะได้มีโอกาสเห็นแต่ไกลๆ “ตา” คือเครื่องมือที่สำคัญมากที่สุด การจะใช้ประโยชน์จากตาให้ได้มากๆ ก็จำเป็นต้องมีวิธีการใช้ ให้มองไปยาวๆ ไกลๆ ดูวิวทิวทัศน์รอบๆ รถของเรา รวมทั้งมองข้างหลังด้วย ช่วยให้เห็นหลายๆ อย่าง หลายๆ มุม รวมทั้งอาการของรถแต่ละคันด้วยว่าคันไหนขับแบบไหน เมื่อเห็นก็ประเมิน ถ้าอันตรายมากๆบรรยากาศไม่น่าเสี่ยง ควรหลบหลีกให้พวกที่รีบเร่งแซงขึ้นหน้าไปก่อน
 
                     การจอดรถ ต้องประเมินความเสี่ยง ก่อนจะกำหนดทิศทางหรือสถานที่สำหรับจอด ลักษณะการจอดที่ปลอดภัยมากที่สุด คือกำหนดทิศทางการจอด ให้ขนานกับบริเวณหรือจุดเสี่ยงต่างๆ หากเป็นสระน้ำ ก็ควรจะให้ตำแหน่งรถขนานกับขอบสระ หรือถ้าเป็นถนนก็ให้ชิดขอบถนน ซึ่งบางท่านอาจจะแย้งว่าการจอดในลักษณะนี้เสียพื้นที่มาก ตัวอย่างที่ดีๆ ที่พอมีให้เห็นคือปั๊มน้ำมันจำนวนหนึ่งออกแบบได้น่าปลอดภัย เพราะให้รถจอดขนานกับร้านสะดวกซื้อ แนวทางป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ก็มีหลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น ขึ้นเบรกมือทุกครั้งที่จอดรถ เอากุญแจออกทุกครั้ง เปลี่ยนทิศทางการจอดให้ปลอดภัย และรวมทั้งประเมินความเสี่ยงด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุด ควรจอดให้ถูกที่ จอดด้วยการมีมารยาทในการจอด เช่น ไม่จอดปากซอยรถเข้าออก ไม่จอดทางร่วมทางแยก หรือจอดขวางทางเข้าออก รวมทั้งไม่จอดแบบคาเกียร์P เมื่อต้องจอดบนช่องจราจร ต้องบอกรถคันหลังให้เห็นว่าเราจอดโดยการเปิดไฟจอด กะพริบสีเหลืองสองดวงพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ถนนปลอดภัยมากขึ้น
 
                     โปรดจำไว้ว่า ถนนเป็นของทุกคน ต่างมีสิทธิ์ใช้เท่ากัน แต่บนถนนมีทั้งคนที่เพิ่งขับรถเป็น และคนที่มีประสบการณ์ การถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งควรปฏิบัติ อุบัติเหตุสามารถป้องกันได้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นส่วนมากล้วนเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ ดังนั้น มนุษย์เท่านั้นที่จะควบคุมอุบัติเหตุได้


ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 17 ธ.ค. 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc