เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นปี ค.ศ. 2014 เป็นรถกระบะขนาดกลางที่แม้จะมีหน้าตาภายนอกเหมือนเดิมทุกประการแต่ภายในกลับได้รับการปรับปรุงและเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ ๆ เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ดูราแม็กซ์รุ่นล่าสุด ระบบอินโฟเทนเมนท์ มายลิงค์ ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเพิ่มเฉดสีใหม่ “ออเรนจ์ ร็อค” ให้เลือกอีกสี
ในทริปนี้ได้ลองขับรถโคโลราโด รุ่นเอ็กซ์แค็บ 2.8 แอลทีแซด 71 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งตัวรถจะถูกยกสูงกว่ารุ่นปกติประมาณ 8 ซม. และเพื่อเพิ่มความสะดวกเวลาขึ้นลงรถ เชฟโรเลตได้ติดบันไดข้างที่ใต้แนวประตูมาให้ด้วย ส่วนบนหลังคาก็มีราวยึดของซึ่งดูไม่ค่อยจำเป็นนักสำหรับรถทรงนี้ เพราะมีพื้นที่บรรทุกของที่กระบะหลังเยอะอยู่แล้วและยังเพิ่มเสียงลมปะทะกับราวยึดขณะใช้ความเร็วสูงอีกด้วย สำหรับล้อติดรถ ใช้แม็กขอบ18 นิ้วลายเดิมแบบ 6 ก้านใส่อยู่กับยางขนาด 255/65R17 แบบออลเทอร์เรน วิ่งได้ทั้งบนถนนเรียบและเส้นทางออฟโรด
ภายในห้องโดยสารใช้สีแบบทูโทนคือครีม-เทาดำ ที่คอนโซลหน้าเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงมาใช้แบบ “อินโฟเทนเมนท์ มายลิงค์” รุ่นล่าสุด ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลง ดูภาพถ่ายหรือวิดีโอ และสนทนาทางโทรศัพท์ ทำการตั้งค่าของระบบผ่านหน้าจอทัชสกรีน และเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับด้วยปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและรับโทรศัพท์บนพวงมาลัย วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะนั่งเป็นผ้า ตัวเบาะรองนั่งคู่หน้าอยู่ในตำแหน่งที่สูง พนักพิงหลังกว้างช่วยให้นั่งได้นาน ๆ โดยไม่เมื่อย คันเกียร์มีด้ามจับที่ยาวและอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย อุโมงค์ขาของผู้ขับมีขนาดใหญ่ การจัดวางแป้นเหยียบต่าง ๆ อยู่ในระยะกำลังดี สปริงคลัตช์ก็ไม่หนักมาก ออกแรงเหยียบลงไปเพียง 2/3 ส่วน ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้แล้ว ใช้เบรกมือแบบรถเก๋งตามสมัยนิยม ส่วนห้องโดยสารตอนหลังเข้าออกง่าย มีพื้นที่วางขาเยอะ ตัวพนักพิงของเบาะหลังแม้จะตั้งชันไปหน่อยแต่ก็ยังให้ความสะดวกสบาย เพราะมีที่เท้าแขนกลางมาให้ด้วย
สำหรับทัศนวิสัยขณะขับขี่ ด้วยความสูงของตัวรถและเบาะนั่งกับกระจกบังลมหน้าหลังที่มีขนาดกว้างขวาง ช่วยให้มุมมองโดยรอบดีมาก พวงมาลัยเพาเวอร์ค่อนข้างหนักและการควบคุมรถในซอยแคบ ๆ หรือบนลานจอดรถไม่คล่องเท่าตัวรถเก๋ง เพราะมีอัตราทดของพวงมาลัยที่เยอะ และมีวงเลี้ยวกว้างถึง 6.3 เมตร
ส่วนพละกำลังของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดแล้วในรุ่นไม่เกิน 3.0 ลิตร ช่วยให้การออกตัวและเร่งแซงทำได้ดีน่าพอใจ แต่คนขับต้องรู้วิธีและจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมเพื่อรักษารอบเครื่องให้อยู่ที่ 2,000-2,500 รอบ/นาทีขึ้นไปซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดและรถสามารถตอบสนองการเร่งความ เร็วได้ดีที่สุด สำหรับเกียร์ 6 ที่เพิ่มเข้าไปนั้นจะทำให้รอบเครื่องลดลงเมื่อเทียบกับเกียร์ 5 ได้อีกประมาณ 500 รอบ/นาที จึงช่วยให้รถกินนํ้ามันลดลง โดยเฉลี่ยตลอดทริปนี้ระยะทางประมาณ 300 กม. อยู่ที่ 12 กม./ลิตร
การทำงานของระบบช่วงล่างด้านหน้านุ่มกำลังดี ส่วนด้านหลังจะมีอาการกระด้างอยู่บ้างแต่ไม่มาก การทรงตัวที่ความเร็วสูง ๆ ในทางตรงไม่มีปัญหา แต่ในทางโค้งรถมีการโคลงอยู่บ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาของรถกระบะยกสูง การทำงานของเบรกวางใจได้เพราะมีระบบช่วยเบรกต่าง ๆ และระบบควบคุมการทรงตัวมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในการลองขับบนเส้นทางออฟโรด การเลือกระบบขับเคลื่อนสามารถทำได้ง่ายมากเพราะใช้ปุ่มไฟฟ้าในการเลือกตำแหน่งการขับเคลื่อนและในจังหวะที่ต้องปีนหินหรือลงหลุมลึกจนล้อข้างใดข้างหนึ่งลอย รถก็ยังเคลื่อนที่ต่อไปได้เพราะชุดเฟืองท้ายของโคโลราโดเป็นแบบลิมิเต็ดสลิป รุ่นแซด 71 นอกจากนี้เชฟโรเลตยังติดตั้งระบบช่วยลงทางลาดชันช่วยควบคุมรถให้เคลื่อนที่ช้า ๆ ขณะที่ลงทางชันมาก ๆ
ถือว่าโคโลราโดใหม่เป็นรถกระบะที่หน้าตาดีและให้สิ่งอำนวยความสะดวกมามากขึ้น แต่ก็ยังมีจุดให้ติบ้างตรงแรงบิดสูงสุดที่มาในช่วงความเร็วรอบที่แคบและไม่คงที่ มีให้เลือกถึง 7 รุ่น ราคาระหว่าง 695,000-998,000 บาท.