มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เผยตัวเลขยอดการจำหน่ายรถยนต์ประจำปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ของการมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับแบรนด์ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ผนวกขบวนรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเข้าสู่ตลาด เกิดสงครามซื้อส่วนแบ่งตลาด ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์มาสด้า เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด "เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ" ทำให้มาสด้าสามารถยืนหยัดและรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปี 2556 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้นสูงถึง 52,914 คัน โดยเฉพาะรถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สกายแอคทีฟ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำตลาดประเทศไทย ปัจจุบันมียอดจองสูงกว่า 3,000 คัน มียอดส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วรวมทั้งสิ้น 1,299 คัน รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 2 ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มียอดขายสูงถึง 21,588 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย มียอดขายสูงถึง 25,983 คัน รถยนต์นั่งมาสด้า 3 ที่ยังคงรักษาระดับยอดขายที่ต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดในเซ็กเมนต์นี้จะลดลงแต่มาสด้า 3 สามารถฝ่าแนวกั้นมาถึง 4,027 คัน ในขณะที่รถพรีเมียมคาร์ของมาสด้าทั้ง 2 รุ่น ทั้ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 และสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 มียอดขายรวมกันถึง 17 คัน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะของเศรษฐกิจในปีที่ผ่านนั้น แม้กำลังซื้อจะมีน้อยมากก็ตามแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อแผนงานของมาสด้าในอนาคตรวมทั้งการขยายโรงงานผลิต สำหรับตลาดรถยนต์ของปี 2557 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดจะยังคงได้รับอิทธิผลมาจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งปีหลัง แต่จะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองซึ่งจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และแนวโน้มของตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่มีความมั่นคง นอกจากนี้มาสด้าจะใช้นโยบายการบริหารจัดการสต็อกรถที่มีอยู่ให้คลี่คลายโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ผู้จำหน่ายแบกรับภาระมากเกินไป ต้องควบคุมปริมาณรถที่จะส่งไปยังผู้จำหน่าย ซึ่งจะต้องทำให้เป็น 0 ภายในไตรมาสแรก เพื่อเข้าสู่การขายในช่วงไตรมาสที่สอง และเพื่อรองรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะทำการเปิดตัว นอกจากนี้ในปี 2557 นี้ มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยเฉพาะด้าน CSR จะเป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างความยั่งยืนให้กับมาสด้าในประเทศไทย มาสด้ายังคงยึดมั่นในนโยบายการสร้างแบรนด์ควบคู่กันในทุกสังคมที่มาสด้าเข้ามาดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกับรถยนต์นั่งมาสด้า 2 รถสปอร์ตปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ และล่าสุดกับสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้าต้องเป็นผู้นำในการสร้างกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ขึ้นมา เพื่อการสร้างแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง
สำหรับปีนี้มาสด้ายังคงเน้นไปที่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่มีรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเสริมตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะสามารถขึ้นแท่นผู้นำในตลาดได้ เป็นรถยนต์ที่จะมาพร้อมฟูลสกายแอคทีฟตัวที่สองที่จะเข้ามาเสริมทัพ และผลิตที่โรงงาน AAT ในประเทศไทย นั่นคือ All New Mazda 3 มาสด้าคาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมและกำลังซื้อของลูกค้าจะดีกว่าปีที่ผ่านมามีแนวโน้มและทิศทางที่สดใส โดยเฉพาะตลาดรถยนต์มาสด้าคาดว่าจะสามารถทะลุเกิน 1.2 ล้านคัน.