ค่ายสามห่วงได้ฤกษ์เปิดตัว โตโยต้า อัลติสใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 11 ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกใหม่หมดจดตลอดคัน ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมิติตัวรถมีความกว้างใหญ่มากขึ้น ความสูงถูกปรับลดต่ำลงให้ความรู้สึกสปอร์ต กระจังหน้าดีไซน์ใหม่เชื่อมต่อกันชนหน้าด้วยลายเส้นรูปตัวทีที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวสะท้อนความล้ำสมัย ลายเส้นรอบคันกลมกลืนและลงตัวจากหัวจดท้าย ชุดไฟหน้าแอลอีดี โปรเจคเตอร์พร้อมเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ และไฟท้ายแอลอีดี ดีไซน์ใหม่ที่ดูเรียวงาม คมเข้ม
พื้นที่ภายในของห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความกว้าง ปลอดโปร่งสะดวกสบาย ด้วยการเพิ่มความยาวช่วงล้อเป็น 2,700 มม. หรือยาวกว่าเดิม 100 มม. ส่งผลให้ห้องโดยสารมีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4,629 มม. หรือยาวกว่าเดิม 80 มม. และกว้าง 1,775 มม. หรือกว้างกว่าเดิม 15 มม. ระยะห่างระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าและหลังเพิ่มขึ้นเป็น 960 มม. หรือมากกว่าเดิม 75 มม. พื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมีความกว้างขวางสะดวกสบายยิ่งขึ้น กระจกมองหลังอัตโนมัติพร้อมแสดงภาพจากกล้องมองหลัง กุญแจรีโมทแบบพับได้ดีไซน์ใหม่ ม่านบังแดดด้านหลัง แผงปรับอากาศดีไซน์ใหม่พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมายที่ครบครัน
สมรรถนะเหนือชั้น ควบคุมทุกการขับเคลื่อนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 และ 1.8 ลิตร ระบบวาล์วอัจฉริยะดูอัล วีวีที-ไอ ประหยัดน้ำมันและช่วยลดมลพิษ ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบซูเปอร์ ซีวีที-ไอ 7 สปีด ทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความต่อเนื่องโตโยต้ามีอัลติสใหม่ให้เลือก 8 รุ่น 6 สี ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและซีเอ็นจี เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ ราคาระหว่าง 769,000-1.069 ล้านบาท
ทางด้านฮอนด้า ออโตโมบิลได้ส่ง ฮอนด้า ซิตี้ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดแอดวานซ์ คูล สตันเนอร์ ดีไซน์โดดเด่นรอบคัน ให้ความรู้สึกหรูหราตั้งแต่ไฟหน้าจดไฟท้าย รวมเอาด้านหน้าที่มีความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวและด้านข้างที่ทรงพลังเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยดีไซน์ด้านหน้าให้ความโดดเด่นใน 3 จุด ได้แก่ มุมด้านหน้าที่ลาดลง, กันชนหน้าและหลังได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ และกระจังหน้าและไฟหน้าแบบโซลิด วิงก์ที่ให้ความหรูหราและล้ำสมัย เพิ่มความสปอร์ตด้วยการติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม (มีเฉพาะบางรุ่น)
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดเลเยอร์ โฟลทติ้ง ค็อกพิท ซึ่งแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและมีความสปอร์ต โดยมีการเลือกใช้วัสดุที่เปี่ยมคุณภาพ ทั้งยังให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน การออกแบบคอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับคอนโซลกลางแบบทีโซน ดูเรียบหรู พร้อมดีไซน์พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถจุได้ถึง 536 ลิตร
เครื่องยนต์ SOHC ไอ-วีเทค ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ผสานกับเกียร์ซีวีทีใหม่ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ขยายอัตราทดเกียร์ให้กว้างขึ้น พร้อมระบบจี-ดีไซน์ ชิฟท์ ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก อย่างน้ำมันอี85 ได้
