ตลาดรถตู้หรูบ้านเราตอนนี้ถือว่ายังคงไปได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวาเหมือนตลาดรถประเภทอื่น อาจเป็นเพราะถือเป็นรถยนต์เฉพาะกลุ่ม ผู้ซื้ออาจใช้รถประเภทนี้เป็นรถคันที่สองหรือสามหรือสี่ของบ้าน

บางคนอาจจะมีรถใช้เป็นประจำอยู่แล้ว พอคันที่สองก็อาจจะซื้อรถเก๋งเล็กหรืออีโคคาร์เอาไว้เดินทางใกล้ๆ ส่วนรถตู้หรูเอาไว้ขับพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดอะไรประมาณนั้น

สำหรับรถตู้หรู คงจะต้องแยกออกจากลูกค้ารถตู้ทั่วไปอย่าง โตโยต้า คอมมิวเตอร์ นิสสัน เออร์แวน หรือ ฮุนได เอช วัน กลุ่มนี้ระดับราคาจะเริ่มตั้งแต่เฉียด 1 ล้านบาท ไปจนถึง 2 ล้านเศษๆ ขึ้นอยู่กับการตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่ต้องการ

แต่รถตู้หรูในบ้านเราน่าจะสู้กันอยู่ 3 ยี่ห้อหลัก ได้แก่ โตโยต้า อัลพาร์ด โฟล์กสวาเกน คาราเวล และ เบนซ์ วีโต้ ระดับราคาไล่ตั้งแต่ 2 ล้านบาทปลายๆ ขึ้นไป

ส่วนใครจะชอบยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็แล้วแต่ เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ จะมีข้อดีแตกต่างกันไปแล้วแต่รสนิยม

แต่วันนี้ขอพูดถึง เบนซ์ วีโต้ รถตู้หรูที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้รถเบนซ์อยู่แล้ว เมื่อต้องการซื้อรถคันที่สองหรือสามหรือคันที่สี่ มีโอกาสสูงมากที่จะเลือกวีโต้ เพราะมีความเชื่อมั่นในแบรนด์และสมรรถนะของรถเบนซ์อยู่แล้ว

ล่าสุด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดทริปเอ็กซ์คลูซีฟเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ให้ได้ทดลองขับเบนซ์ วีโต้ อเนกประสงค์ เพื่อตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบ สำหรับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันทำงานของผู้บริหาร

เบนซ์ วีโต้ เป็นรถตู้อเนกประสงค์แบบ 11 ที่นั่ง เน้นดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอกให้ดูหรูหรา โดยเฉพาะที่นั่งโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนได้ให้ความคล่องตัว เพิ่มความสะดวกสบาย พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง ปลอดโปร่ง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้หลากหลาย

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 181 กม./ชม. ผสานการทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะ และแมนน่วลโหมด พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหลังคอยล์สปริงแบบคอมฟอร์ท พร้อมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแม้ใช้ความเร็วสูง

ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่งเป็นพิเศษจากหลังคาซันรูฟแบบกระจกขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้รองรับทุกประโยชน์ใช้สอย

สิ่งที่เปลี่ยนสำหรับวีโต้ครั้งนี้แบบชัดเจนที่สุดก็คือ การเปลี่ยนที่นั่งจากเดิมเป็นที่นั่งติดกันเป็นแถว เปลี่ยนมาเป็นที่นั่งแยกอิสระ หรือที่เรียกว่าที่นั่งแบบ กัปตัน แชร์ 2 ตำแหน่ง โดยนำมาจาก เบนซ์ เวียโน รถตู้หรูขึ้นไปอีกรุ่นของเบนซ์ เป็นเบาะนั่งที่เน้นออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และผลิตขึ้นจากวัสดุคุณภาพสูงผ่านการผลิตที่พิถีพิถัน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น รู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายและผ่อนคลาย แตกต่างจากรถในระดับเดียวกัน ที่สำคัญดูดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างผิดหูผิดตา

ภายในห้องโดยสารมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบเทอร์โมโทรนิก (THERMOTRONIC) ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถแยกปรับระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระ ส่วนห้องโดยสารด้านหลังติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิแบบเทมป์เมติก (TEMPMATIC) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน พร้อมด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง สามารถปรับระยะสูง-ต่ำได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ วิทยุ-ซีดี MP3 ได้ง่าย รวมถึงประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวา แบบเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สามารถสั่งการได้จากตัวรถและกุญแจรีโมต เพื่อความสะดวกสบายในการเข้าออกรถ

สำหรับระบบความปลอดภัยต่างๆ มีทั้งโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Adaptive ESP (Electronic Stability Program) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัวของรถได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและการยึดเกาะถนนให้อยู่ในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนลื่นหรือถนนที่มีพื้นผิวต่างกัน รวมทั้งระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ EBD (Electronic brake force distribution) ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control)

มีฟังก์ชั่นช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นด้วยอุปกรณ์ไฟหน้าแบบไบซีนอน (bi-xenon) พร้อมระบบฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า ส่องสว่างในที่มืดโดยอัตโนมัติ ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) จะทำงานทันทีเมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหัน และส่งสัญญาณเตือนให้รถคันหลังทราบถึงสถานการณ์คับขัน พร้อมทั้งระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light) ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืนไปอย่างชัดเจนและปลอดภัย รวมทั้งไฟเดย์ไทม์ (daytime) สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED

เมอร์เซเดส-เบนซ์ วีโต้ 115 CDI Executive เป็นรถนำเข้าทั้งคันจากประเทศสเปน ตั้งราคาไว้เริ่มต้นที่ราคา 2,899,000 บาท ส่วนใครจะตกแต่งเพิ่มเติมนอกจากนี้ก็หารือกับดีลเลอร์ได้ตามความต้องการ เพราะคนใช้รถตู้บ้านเราส่วนใหญ่จะไม่จบแค่ออกมาจากโชว์รูม ส่วนจะให้เริ่ดหรูตามใจอยากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรสนิยมและการนำไปใช้งาน รวมทั้งกำลังทรัพย์ของแต่ละคน จะไปให้สุดแค่ไหน ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด