"ยามาฮ่า" ฉลอง 50 ปีทุ่มปรับไลน์ผลิต 2-3 พันล้าน วาดแผนส่งรถใหม่กว่า 12 รุ่นภายใน 3 ปี หวังเพิ่มแชร์เป็น 25% แตกเซ็กเมนต์ลุยมอเตอร์ไซค์กลุ่มสปอร์ต ปลื้มเน็ตเวิร์กปึ้กดันตลาดบิ๊กไบก์วิ่งฉิว ชูมาตรฐานเซอร์วิสดูดลูกค้ากลับเข้าศูนย์บริการ บ่นอุบการเมืองกระทบตลาดปีนี้หดเหลือ 1.8 ล้านคัน

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เปิดเผยว่า แผน 3 ปีจากนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนอีก 2-3 พันล้านบาทปรับปรุงไลน์ผลิต รวมถึงแนะนำรถใหม่อีกอย่างน้อย 12 รุ่น ซึ่งจะทำให้ปี 2559 บริษัทน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 25% โดยจะแตกเซ็กเมนต์ลุยมอเตอร์ไซค์กลุ่มสปอร์ต

"จะเห็นว่าวันนี้เราไม่ มีจักรยานยนต์กลุ่มสปอร์ตทำตลาดเลย แต่ปีนี้เราจะทยอยส่งออกสู่ตลาดโดยหวังว่าภายใน 3 ปี ทุกเซ็กเมนต์เราจะมีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้น เราหวังว่าในปี 2559 ยอดขายยามาฮ่าน่าจะถึง 475,000 คัน"

นายประพันธ์กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นกลยุทธ์เพื่อไปสู่เป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด โดยเน้นกลยุทธ์สำคัญ 3 ส่วน คือ 1.สร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ภายใต้แบรนด์แคมเปญใหญ่ "Revs Your Heart" ที่ยามาฮ่าจะใช้สื่อสารทั่วโลกต่อเนื่อง 3 ปี และเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่สร้างสรรค์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสภาพการแข่งขันทางการตลาดยุค ใหม่

2.สร้างยอดขายที่มากขึ้นให้กับผู้จำหน่ายด้วยการเพิ่มสินค้า ใหม่ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดรุ่นใหม่ที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน และดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก เน้นที่กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก และกลุ่มรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์ ที่จะเน้นมากเป็นพิเศษด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ทั่วประเทศ

โดย ตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก มากกว่า 20% สำหรับรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์ และมากกว่า 25% สำหรับรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ต ภายใน 3 ปีจากนี้

3.รักษาฐานลูกค้า ด้วยบริการหลังการขาย ขยายเครือข่ายโชว์รูมยามาฮ่าสแควร์ ปรับปรุงศูนย์บริการให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น และขยายเครือข่ายอะไหล่ในพื้นที่เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า และผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

"ปีนี้เป็นปีครบ รอบ 50 ปีของบริษัท เราจึงถือเป็นโอกาสดีในการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับแบรนด์ยามาฮ่าได้เติบโต อย่างแข็งแกร่งต่อไป" นายประพันธ์กล่าว

ส่วนความต้องการของตลาดรวมรถจักรยานยนต์คาดว่า ปีนี้น่าจะตกลงอยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านคัน ลดลง 10% จากปีก่อน อันเนื่องจากผลกระทบการเมือง เศรษฐกิจ และปัจจัยลบอื่น ๆยามาฮ่าตั้งเป้ามียอดขายไว้ที่ 360,000 คัน ลดลง 4% จากปีก่อน แต่ทั้งนี้เชื่อว่าในส่วนของส่วนแบ่งทางการตลาดนั้น ยามาฮ่าจะเพิ่มขึ้นถึง 20%

ส่วนยอดขายปีที่ผ่านมานั้น ตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมเติบโตลดลง 6% โดยมียอดจดทะเบียนรวมประมาณ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นสัดส่วนรถจักรยานยนต์ออโตเมติก 45% และรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์ 55%

โดยยามาฮ่ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 3.8 แสนคัน มีส่วนแบ่งตลาด 19% ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ตกลงในทุกภาคส่วน และปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองของประเทศ

รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ กล่าวถึงตลาดบิ๊กไบก์ว่า ตลาดมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ตลาดรวมปีที่แล้วทำได้สูงถึง 13,000 คัน เชื่อว่าปี 2559 จะขยับเป็น 20,000 คัน ขณะที่ยามาฮ่าปีที่แล้วขายไป 300 คัน ปีนี้ตั้งเป้า 700 คัน และปี 2559 จะทำได้ถึง 2,000 คัน

ทั้งนี้แนวโน้มอาจจะไม่ผลิตในเมืองไทย เนื่องจากอีก 2 ปีข้างหน้า ภาษีจะเป็น 0% ดังนั้นนำเข้าจากประเทศญีปุ่นน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า

โดยเร็ว ๆ นี้ตั้งเป้าเปิดโชว์รูมรูปแบบใหม่สำหรับบิ๊กไบก์ และขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีรถยามาฮ่าบิ๊กไบก์ 7 รุ่น ที่จะทำตลาดในปีนี้

ส่วนการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านเครือข่าย บริการและอะไหล่ (3S) เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ยามาฮ่าจะเพิ่มเครือข่ายยามาฮ่าสแควร์ (YSQ) เป็นจำนวน 700 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปี เพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยการสื่อสารรูปแบบใหม่ ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ บริษัทจะเดินหน้าปรับปรุงศูนย์บริการรูปแบบใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น และมีการขยายจำนวนศูนย์ซ่อมบำรุงหัวฉีด (YiS : Yamaha Innovative Service) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์บริการที่มีอุปกรณ์การตรวจเช็กระบบหัวฉีดที่ทันสมัยที่ สุด และบริการส่งอะไหล่เร่งด่วนภายใน 48 ชม. การรับประกันคุณภาพอะไหล่แท้ และอะไหล่ตกแต่ง รวมถึงการเพิ่มการบริการ Call Center สำหรับอะไหล่ด้วย

นาง สาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเครือข่ายการขายนั้นปีนี้จะให้ความสำคัญมากขึ้น โดยพร้อมที่จะเปิดยามาฮ่าไรเดอร์คลับ และโชว์รูมจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ปี 2559 ยามาฮ่าจะมีเครือข่ายมากถึง 700 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 55 แห่ง โดยเน้นขยายพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่จุดอ่อนของยามาฮ่า และจะพยายามผลักดันให้ดีลเลอร์ขายอะไหล่ทั้งในศูนย์บริการและนอกศูนย์

แผน 3 ปียังรวมถึงการเพิ่มจำนวนลูกค้านำรถเข้ามาตรวจเช็กระยะ ซึ่งเดิมมีประมาณ 18% ให้เป็น 35% และลูกค้าที่กลับเข้ามาใช้ศูนย์บริการ ซึ่งเดิมมีประมาณ 50% เพิ่มเป็น 70% ซึ่งจะทำให้ยอดขายอะไหล่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากปีที่แล้ว 1,377 ล้านบาท เป็น 1,545 ล้านบาทในปีนี้ และปี 2559 น่าจะขยายไปถึง 1,647 ล้านบาท