"สหการ ประมูล" เผยตลาดรถมือสองขยายตัว การเมืองส่งผลไฟแนนซ์แห่ลดราคาขายรถ กระตุ้นยอด ตลาดต่างจังหวัดกำลังซื้อสูง ยอดประมูลโตต่อเนื่อง เล็งเปิดสาขาใหม่ขนาดใหญ่ 8 สาขาทั่วประเทศ
นายเทพทัย ศิลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทปีนี้ว่า จากตลาดรถยนต์มือสองที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ จึงมีแผนที่จะเปิดสาขาแห่งใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด โดยเฉพาะรถยึดจากสถาบันการเงินในภูมิภาคต่าง ๆ ที่กำลังทยอยเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด ซึ่งจะเปิดสาขาใหม่ที่เชียงใหม่ สำหรับรองรับการขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสองภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน สุราษฎร์ธานี และสาขาฝั่งธนบุรี
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดสาขาแห่งใหม่ที่ภาคอีสานและภาคใต้ รวมทั้งสาขาในภาคกลางที่จะเปิดที่กรุงเทพฯ โดยทำเลในเมืองใหญ่นั้น แต่ละสาขาจะมีพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 10 ไร่ขึ้นไป พัฒนาเป็นสำนักงานบริการ และลานจอดรถยนต์มือสองไม่ต่ำกว่า 3,000 คัน และรถจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน
เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ในจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และหาดใหญ่ รวมทั้งที่ดินฝั่งธนบุรี นอกจากนี้ แล้วสาขาที่จะเปิดใหม่นั้นจะรองรับการประมูลสัญจรในต่างจังหวัดซึ่งในแต่ละ เดือนนั้นจัดขึ้นไม่ต่ำกว่า 20 รอบ
ซึ่งการเลือกลงทุนเปิดสาขา แห่งใหม่ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เนื่องจากมีศักยภาพในด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ทำให้ประชาชนมีรายได้และมีกำลังซื้อสูง
ด้านนายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ หัวหน้าสำนักงานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้สถานการณ์การเมืองจะกระทบต่อการบริโภคและอุปโภคสินค้าทั่วไป แต่สำหรับการประมูลรถยนต์มือสองนั้นยังคงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เห็นได้จากเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา ที่ยอดขายรถยนต์มือสองจากการประมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดย เฉพาะตลาดต่างจังหวัดที่รถยนต์ประเภทกระบะได้รับความสนใจซื้อมากเป็นพิเศษ เนื่องจากถูกนำไปใช้ในกิจกรรมทางการเมือง ทำให้ยอดการประมูลขายรถยนต์ในภูมิภาคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นชัดเจน
นอกจาก นี้แล้วยังมีปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจประมูลซื้อรถยนต์มือสองใน ช่วงที่ผ่านมา คือสถานการณ์การเทขายรถยนต์ของไฟแนนซ์ต่าง ๆ เนื่องจากไม่ต้องการแบกภาระต้นทุนในการเก็บ
รักษาและดูแลรถยนต์ จึงต้องปรับลดราคาขายลงเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ทำให้นักลงทุนในธุรกิจรถยนต์มือสองประมูลซื้อเพื่อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาลด ต่ำลงซึ่งการปรับลดราคาลงของไฟแนนซ์นั้นอาจเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีส่วนทำให้การยึดรถของไฟแนนซ์ทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากการเมืองยืดเยื้อนานมากกว่านี้อาจทำให้มีรถยนต์มือสองในตลาดประมูลน้อยลง ซึ่งจะส่งผลต่อราคาที่ต้องปรับขึ้นตามกลไกของตลาด
อย่างไรก็ตามหาก สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีวี่แววจะยุติได้ในเร็ว ๆ นี้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสองในภาพรวมอย่างแน่นอน แต่มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลเสียหายต่อธุรกิจประมูลมากนัก เนื่องจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนั้นส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน หากยังสามารถเดินทางมาประมูลซื้อรถยนต์ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา และการประมูลขายรถยนต์นั้นได้กระจายอยู่ทั่วประเทศ ลูกค้าในจังหวัดต่าง ๆ ยังคงประมูลซื้อได้ตามปกติ