ชาวนาไม่ได้รับเงิน กระทบตลาดปิกอัพ-จักรยานยนต์ แถมลุกลามไปยังธุรกิจอื่น เพราะไม่มีเงินหมุนสะพัด ดีลเลอร์เครียดสต๊อกเหลือบาน ชี้ไฟแนนซ์เข้มปล่อยสินเชื่อ เดินหน้าจัดโปรโมชันดุเดือด วอนบริษัทแม่อย่าอัดยอด ผวาไม่เกิน 3 เดือน สต๊อกบวมแน่
แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์เปิดเผยว่า ปัญหาที่ชาวนาจำนวนมากไม่ได้เงินจากการจำนำข้าวกับรัฐบาลได้ส่งผลต่อตลาดรถปิกอัพและรถจักรยานยนต์ในต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก ซึ่งตามปกติ ชาวนาจะปลูกข้าวในวันแม่ หรือประมาณเดือนสิงหาคม เกี่ยวข้าวขายวันพ่อ หรือประมาณเดือนธันวาคม เมื่อชาวนาขายข้าวได้จะใช้เงินซื้อรถจักรยานยนต์หรือรถปิกอัพ แต่ปีนี้ไม่มีเงินใช้จับจ่าย ส่งผลให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่มีรถค้างในสต๊อกจำนวนมาก และอาจเกิดปัญหาสต๊อกบวม เหมือนช่วงกลางปี 2556 ที่ผ่านมา ทำให้ดีลเลอร์ต้องจัดโปรโมชัน ด้วยแคมเปญดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ เดินสายจัดโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้าหรือแม้แต่ในตลาดนัด เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยใช้งบจากบริษัทแม่มาจัดแคมเปญ ทำให้การแข่งขันรุนแรงและดุเดือดมากยิ่งขึ้น
นายสมศักดิ์ ผลพิสิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเมริกัน มอเตอร์ส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ด จังหวัดเชียงใหม่ , เชียงราย เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ปัญหาที่ชาวนาส่วนหนึ่งจำนำข้าวและยังไม่ได้เงิน มีผลกระทบต่อตลาดรถปิกอัพโดยตรงไม่ถึง 15 % แต่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า เพราะปกติชาวนาขายข้าวได้ ก็ต้องนำเงินจ่ายค่าปุ๋ย จับจ่ายซื้อสินค้าที่จำเป็น ทำให้มีเงินสะพัดหมุนเวียนต่อธุรกิจอื่นๆด้วย แต่ตอนนี้ เมื่อชาวนาไม่มีเงิน ทำให้ธุรกิจอื่นๆได้รับผลกระทบตามไปด้วย
"ปีนี้ ค่ายรถยนต์ประเมินว่า ตลาดรถยนต์จะมียอดขายประมาณ 1.2 ล้านคัน ครึ่งหนึ่งจะเป็นรถปิกอัพ แต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ยอดขายรถโดยรวมหดตัวเหลือ 68,000 คัน จากที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดขายประมาณ 1.3 แสนคัน ลดลงถึง 50 % ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว ไฟแนนซ์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ไม่อนุมัติกรณีดาวน์ต่ำกว่า 20% รวมทั้งการมาของอีโคคาร์และโครงการคืนภาษี 1 แสนบาท ทำให้ตลาดรถเก่าเสียหาย เมื่อยอดขายปิกอัพไม่เป็นไปตามคาด ดีลเลอร์เริ่มต้องแบกรับภาระสต๊อก หากบริษัทแม่ปรับตัวไม่ทัน อัดรถใหม่ให้ดีลเลอร์อีก ไม่ถึง 3 เดือน เจอเรื่องสต๊อกบวมแน่"
ด้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายหนึ่งในเขตกรุงเทพฯกล่าวเสริมว่า บริษัทรถยนต์ในตอนนี้ไม่มีการลดเป้าหมายทางการขาย โดยบริษัทแม่มีข้อเสนอเพื่อดึงดูดใจดีลเลอร์ในการสั่งรถไปขาย ส่งผลให้ดีลเลอร์ต้องเพิ่มเติมกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยภาพรวมของดีลเลอร์รถยนต์แบรนด์รองทุกวันนี้มีกำไรจากการให้บริการหลังการขายมากกว่ากำไรจากการขายรถ
"ดีลเลอร์ค่อนข้างเหนื่อย เพราะทุกคนต้องหนีตาย ดังนั้นกำไรในส่วนของการขายก็จะนำมาเป็นค่าการตลาดบ้าง หรือออกอีเวนต์ต่างๆบ้าง ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำเพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องประสบกับการแบกสต๊อก"
นายชาญ เลิศประเสริฐภากร ประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า ทีบีเอ็น จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า และผู้บริหารคอมมิวนิตี มอลล์ "เดอะ พาสิโอ" เปิดเผยว่าภาพรวมการขายรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาทรงตัว ไม่หวือหวา ทั้งในส่วนของรถยนต์นั่ง และรถปิกอัพ อย่างไรก็ตามบริษัทมีการแก้เกมด้วยการจัดแคมเปญและกิจกรรมอีเวนต์เพื่อดึงลูกค้าเข้ามายังโชว์รูม
นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีการลงทุนเพิ่มกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อขยายโชว์รูมและศูนย์บริการพร้อมทั้งคอมมิวนิตีมอลล์ พาซิโอ บนเนื้อที่ 50 ไร่ ถนนกาญจนาภิเษก โดยคาดว่าโชว์รูมจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการกลางปีนี้ ส่วนคอมมิวนิตีมอลล์ พาซิโอ นั้นคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี
"การเมืองกระทบกับยอดขายเราเพียงเล็กน้อย ในส่วนของบริษัทแม่ก็มีแคมเปญออกมาช่วย ตัวดีลเลอร์เองก็มีการจัดกิจกรรมเพื่อจะกระตุ้นกำลังซื้อ โดยเราประเมินว่าตลาดรถยนต์ยังคงเดินหน้า และเราก็มีการลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับกับความต้องการที่ยังมีอยู่ "
