ทาทา มอเตอร์ ประกาศแผนงานรุกปีม้า เตรียมขึ้นไลน์ผลิตรถซูเปอร์เอช ต.ค.นี้ และนำเข้ารถบรรทุก 2 รุ่น 2 แบรนด์ ทั้งทาทาและแดวู พร้อมเอาจริงตลาดรถยนต์นั่ง เล็งเปิด 3 รุ่นปลายปีนี้ทั้ง นาโน , เอเรีย และสตรอม มั่นใจยอดขายปี 57 โกย 7 พันคัน
นายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย)จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ทาทา จากอินเดีย เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557 บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดประเทศไทยอย่างเต็มตัว หลังจากในปีที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาตลาดรถยนต์รุ่นต่างๆ และหาข้อมูลความต้องการของลูกค้าเพื่อนำรถรุ่นที่เหมาะสมและตรงกลุ่มเป้าหมายเข้ามาจำหน่าย
โดยตามแผนที่วางไว้จะเปิดตัวรถใหม่ ทั้งเซ็กเมนต์รถบรรทุก หัวลาก - รถมิกเซอร์ ผสมคอนกรีต ที่ใช้แบรนด์ทาทา -แดวู นำเข้ามาจากเกาหลี และในเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งอีก 3 รุ่นในช่วงปลายปี ได้แก่ ทาทา นาโน , ทาทา แอเรีย และทาทา สตรอม นอกจากนั้นแล้วจะขึ้นไลน์ประกอบซูเปอร์เอช ในประเทศไทย
"เราอยู่ในประเทศไทยมา 7 ปี มีรถยนต์ที่จำหน่ายคือ ทาทา ซีนอน , ซีนอน ซีเอ็นจี และ ซูเปอร์เอช โดยมียอดขายสะสมแล้วประมาณ 2.2 หมื่นคัน และคาดว่าอีก 1- 2 เดือนนี้ซึ่งเป็นการปิดยอดขายปีงบประมาณ 2556 จะเพิ่มเป็น 2.3 หมื่นคัน หลังจากนั้นจะเริ่มปีงบประมาณ 2557 ในเดือนเมษายนและเราได้เตรียมแผนงานเพื่อรุกตลาดอย่างจริงจัง"
นายมิชรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ทำการลงทุนประมาณ 150 ล้านบาทเพื่อพัฒนาไลน์ประกอบของซูเปอร์เอช รถบรรทุกขนาดเล็ก ในประเทศไทย โดยจะใช้โรงงานของธนบุรี ประกอบรถยนต์ และจะเริ่มผลิตในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งรถในรุ่นนี้สามารถทำยอดขายเติบโตกว่า 75% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น ขณะที่การลงทุนของทาทาในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 2,150 ล้านบาท
"จุดเด่นของซูเปอร์เอชคือ เป็นรถรุ่นเดียวในเซ็กเมนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตร ขณะที่คู่แข่งอื่นๆใช้เครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งการขึ้นไลน์ประกอบในประเทศไทยจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทย ทั้งในแง่ของตัวรถและการสนับสนุนด้านชิ้นส่วนอะไหล่ การบริการหลังการขาย "
ด้านแผนงานของรถยนต์นั่งทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก นาโน , รถเอ็มพีวี เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ในรุ่นเอเรีย และรถเอสยูวี เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ในรุ่นซาฟารี สตรอม จะมีการปรับฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าคนไทย โดยจากเดิมในอินเดียจะใช้เกียร์ธรรมดา ก็จะปรับมาเป็นเกียร์ออโต และจะทำการเปิดตัวในปลายปีนี้
"สาเหตุที่รถยนต์นั่งเปิดตัวในช่วงปลายปี และอาจช้าไปถึงต้นปีหน้านั้น ก็เพราะว่าต้องทำการพัฒนาเกียร์ให้รองรับความต้องการของลูกค้าคนไทย โดยระยะเวลาในการพัฒนานั้นประมาณ 6 เดือน และต้องทำการทดสอบอีก 6 เดือน รวมๆแล้ว 1 ปี ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความต้องการของลูกค้าคนไทยก่อน และทีมวิศวกรของทาทาที่อินเดียมีการทำงานสนับสนุน"
นายมิชรา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทวางเป้าหมายการขายในปีงบประมาณ 2557 ไว้ที่ 7 พันคัน เติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มียอดขายประมาณ 3.5 พันคัน โดยปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมายมาจากยอดขายในช่วงที่ผ่านมา แม้ตลาดรวมจะตกลงกว่า 40% แต่ยอดขายของ ทาทา ยังคงที่หรือบางเดือนลดลงแต่อยู่ในอัตราที่ไม่มากเท่าตลาด
นอกจากนั้นแล้วจะมีการปรับองค์ประกอบต่างๆของรถให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงการทำงานร่วมกับดีลเลอร์ การจัดกิจกรรมทางการตลาด การทำแคมเปญออกมากระตุ้นตลาด และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันมีจำนวน 46-47 แห่ง และกำลังพัฒนาเพื่อจะเพิ่มเป็น 50 แห่ง ส่วนเป้าหมายการขยายภายในปีงบประมาณ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 70 แห่งทั่วประเทศ
"ภาพรวมตลาดรถยนต์ตั้งแต่ต้นปีมามีการชะลอตัว แต่ทาทายังทำยอดขายได้คงที่ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากรถที่อยู่ในกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ยังคงมีความจำเป็นและมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้า ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่ายอดขายที่วางไว้ 7 พันคันจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสัดส่วนยอดขายที่วางไว้จะมาจากรุ่นซีนอน , ซีนอน ซีเอ็นจี และซูเปอร์ เอช ส่วนรถยนต์นั่งจะทำการเปิดตัวปลายปีเรื่อยไปจนถึงต้นปี ดังนั้นจึงยังไม่รวมตัวเลขดังกล่าว ขณะที่ยอดขายของรถในเซ็กเมนต์รถบรรทุกคาดว่าจะทำได้ 500 คัน"