|
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ กับดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย
เชฟโรเลต แคปติวาโฉมใหม่ล่าสุด เปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์-เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา มาพร้อมระบบควบคุมอากาศแยกส่วนดูอัลโซนและระบบเข้า – ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจปรับดีไซน์ใหม่ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายรถ รวมถึงในห้องโดยสาร เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพให้สูงขึ้นอีกขั้นเน้นย้ำความโดดเด่นด้านสมรรถนะและการควบคุมที่คล่องตัว แคปติวา โฉมปี 2014 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์อันล้ำสมัยใหม่ล่าสุด พร้อมปรับรูปลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ ตลอดจนพละกำลังที่เหนือชั้นซึ่งจะช่วยให้เชฟโรเลต สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถเอสยูวีขนาดกลาง (SUV-C) แคปติวาถือเป็นรถระดับเรือธงของเชฟโรเลต ในประเทศไทยนับตั้งแต่เปิดตัว โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งหมดมากกว่า 35,000 คัน รวมถึงอีกหลายพันคันที่จำหน่ายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวแคปติวาโฉมใหม่ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเชฟโรเลต มีความทันสมัยมากที่สุดในตลาดยานยนต์เวลานี้ แคปติวาใหม่ มาพร้อมระบบเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (Passive Entry Passive Start – PEPS) ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่ออยู่ในรัศมีของ เซ็นเซอร์โดยไม่ต้องถือกุญแจอยู่ในมือ ระบบควบคุมอากาศดูอัลโซนใหม่ของเชฟโรเลต แคปติวาช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเบาะ หน้าสามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้แบบแยกส่วน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารทุกที่นั่ง นอกจากนี้ สวิทช์ควบคุมบนพวงมาลัยยังเป็นแบบเรืองแสงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อแสงสว่างไม่เพียงพอ โดยสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ครูสคอนโทรล) สำหรับการตกแต่งยังมีการยกระดับพื้นผิวของวัสดุทั่วทั้งห้องโดยสารให้มีความ สดใหม่ยิ่งขึ้น แคปติวาใหม่ได้รับการปรับดีไซน์กันชนหน้าใหม่ พร้อมฝาครอบไฟตัดหมอกที่ให้ความหรูหรายิ่งขึ้น ขณะที่กันชนหลังได้รับการออกแบบใหม่คู่กับปลายท่อไอเสียโครเมียมและกรอบไฟ หลังสไตล์ใหม่ แคปติวาโฉมล่าสุดยังติดตั้งบันไดข้างสแตนเลสที่อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร สามารถเข้า-ออกตัวรถได้ง่ายขึ้น (เฉพาะรุ่น 2.0 ดีเซล LTZ อย่างเดียว) รุ่น LT ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกช่วยเสริมความหรูหราให้แคปติวา 2014 ได้อย่างชัดเจน แคปติวายังคงมีช่องปรับอากาศเพื่อความเย็นสบายของผู้โดยสารแถวที่สามและ มีเบาะรองรับห้าถึงเจ็ดที่นั่ง พร้อมกับเนื้อที่จัดเก็บสัมภาระ 930 ลิตร ระบบเครื่องเสียงเป็นเทคโนโลยีแบบสามมิติ (Three-Dimensional Sound Staging) พร้อมลำโพงแปดตัวที่ได้รับการออกแบบเพื่อมอบคุณภาพเสียงขั้นสูง เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือกสองบล็อก เริ่มจากเบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร E85 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์วและระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร แคปติวาเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในเซกเมนท์นี้ที่รองรับเชื้อเพลิง E85 อีกหนึ่งเครื่องยนต์เป็นบล็อกดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า สิ่งสำคัญยิ่งกว่าของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบของแคปติวาคือการมีแรงบิดมาที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ 1,750 รอบ/นาทีไปจนถึงสูงสุด 2,750 รอบ/นาที ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองมีสมรรถนะเท่าเทียมกัน รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำยังทำให้การขับขี่มีความเงียบและประหยัดเชื้อเพลิงกว่า เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตรบล็อกนี้ได้รับความนิยมทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปี 2555 กระทรวงเพื่อสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียยกย่องให้แคปติวาเป็นรถดีเซลที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมจากการปล่อยมลพิษต่ำที่สุด (ภายใต้โครงการ Blue Sky Expose Program) พละกำลังถูกถ่ายทอดสู่ล้อด้วยระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 เจนเนอเรชั่นที่สอง พร้อมฟังก์ชั่น DSC (Driver Shift Control) ซึ่งถือเป็นเกียร์ 6 สปีดครั้งแรกในเซกเมนท์นี้เช่นกันเมื่อแคปติวาเปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปี 2554 สำหรับแคปติวาใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ แคปติวา 2014 ยังคงติดตั้งเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่และช่วงล่างที่มั่นคง ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบมัลติ-ลิงค์ ทำให้เอสยูวีรุ่นนี้มีการควบคุมที่เหนือชั้นและปราดเปรียว แคปติวายังโดดเด่นด้วยระบบช่วงล่างยกตัวอัตโนมัติที่จะรักษาความสูงของตัวรถ โดยอัตโนมัติไม่ว่าจะบรรทุกหนักเพียงใดก็ตามเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและการควบ คุม ระบบความปลอดภัยของแคปติวาเพียบพร้อมทั้งเชิงรุกและเชิงป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบช่วยเบรกไฮโดรลิก (HBA) ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก (EBD) ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP) แคปติวายังมาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA) ซึ่งป้องกันไม่ให้ตัวรถไหลถอยหลังเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากเบรกบนทางลาด ชัน พร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS และ EBD ใน การรักษาความเร็วของตัวรถเมื่อลงทางลาดชันและมีความลื่น เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและการคุมพวงมาลัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แคปติวายังมาพร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านนิรภัย รวมถึงเข็ดขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
ราคาจำหน่าย
เครื่องเบนซิน E85 - 2.4 LTZ E85 1,595,000 บาท - 2.4 LT E85 1,507,000 บาท - 2.4 LSX E85 1,282,000 บาท - 2.4 LS E85 1,198,000 บาท
เครื่องดีเซล VCDI - 2.0 LTZ VCDI 1,714,000 บาท - 2.0 LT VCDI 1,635,000 บาท - 2.0 LSX VCDI SVP 1,480,000 บาท - 2.0 LSX VCDI 1,410,000 บาท
ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : http://www.chevrolet.co.th/
ผู้บันทึก :
Rodweekly
date : [ 03 เม.ย. 2557 ]
|
|
error=select * from newtopic order by q_id desc |