จำนวนผู้เข้าชม : 229 ครั้ง
End Page
 
 
BMW X4 : ถึงเวลาลุยตลาดสปอร์ต

อุ่นเครื่องกันมานานร่วมปีในที่สุด BMW ก็ได้ฤกษ์ส่ง SUV มาดสปอร์ต Made in U.S.A. จากโรงงานในสหรัฐอเมริกาออกมาลุยตลาดทั่วโลกแล้ว กับรหัส X4 ที่คงแนวคิดในการรุกตลาดไม่ต่างจากที่ X5 มี X6

X4 ซึ่งมากับรหัสตัวถัง F26 ถือเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นโดยแตกไลน์มาจาก X3 รุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรายละเอียดทางวิศวกรรมของ SUV ทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้ร่วมกัน เพียงแต่ว่าตัวถังที่เป็นเปลือกนอก รวมถึงรายละเอียดภายในห้องโดยสารแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับตำแหน่งทางการตลาด ซึ่ง X3 จะมากับรูปทรง SUV ทรงสูงสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบอะไรที่เป็น SUV

ขณะที่ X4 จะอิงแนวคิดเดียวกับ X6 คือ ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างด้วยรูปทรง ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเพื่อความสปอร์ต และปราดเปรียว แม้ว่าจะมี 4 ประตู แต่ทว่าในแง่ของภาพรวม ก็เน้นความโฉบเฉี่ยวทั้งเสากระจกบังลมหลัง ซึ่งมีลักษณะลาดเทไปทางด้านหน้า รับกับแนวขอบของหลังคาที่โค้งลงมา หรือโป่งซุ้มล้อรอบคันที่ได้รับการเสริมความบึกบึน

เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีให้เลือกสัมผัสหลากหลายทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล รวมกันแล้ว 6 รุ่นด้วยกัน แบ่งเป็น X4 xDrive20i ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี 184 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. และ X4 xDrive28i ที่ใช้เครื่องยนต์เหมือนกัน แต่ถูกเบ่งกล้ามจนมีกำลังสูงสุด 240 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.9 กก.-ม.

ส่วนรุ่นท็อปของเบนซิน ณ วินาทีนี้ คือ X4 xDrive35i โดยใช้ขุมพลัง 6 สูบเรียง ทวินแคม 24 วาล์ว 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ มีกำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800-6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.6 กก.-ม. ที่ 1,200-5,000 รอบ/นาที ใช้เวลาเพียง 5.5 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 247 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แต่ถ้าชอบความประหยัด BMW ก็ยังเตรียมทางเลือกอื่นๆ ในแบบเทอร์โบดีเซลเอาไว้รอท่า โดยมีทั้งตัวแรง X4 xDrive35d บล็อก 6 สูบ 3,000 ซีซี 313 แรงม้า ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 64.2 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ใช้เวลา 5.2 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็ว สูงสุด 247 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วนอีกรุ่น คือ X4 xDrive30d ใช้บล็อกเดียวกัน แต่ลดความเร้าใจลงมาอยู่ที่ 258 แรงม้า ที่ 1,500-3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 57.1 กก.-ม. ที่ 1,500-3,000 รอบ/นาที และ X4 xDrive20d แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม.การทำตลาดจะมีขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปกลางปีนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.3 ล้านบาท สำหรับบ้านเราน่าจะมีเข้ามาทำตลาด แต่คงในรูปแบบนำเข้าทั้งคัน
















 




ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 18 เม.ย. 2557 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc