"ไบเกอร์ส" ปรับภาพลักษณ์เลิกผลิตสินค้าป้อนตลาดรถเล็ก สยายปีกชุดแต่ง บิ๊กไบก์ เริ่มเจาะกลุ่มตลาดซูเปอร์ไบก์ 1,000 ซีซี โวเตรียมแนะนำสินค้าใหม่กว่า 10 รุ่น ปลื้มตลาดทั้งส่งออก-ในประเทศกระแสแรงต่อเนื่อง

นายธนกร บุญวาณิชการ แบรนด์ดีเวลอปเมนต์ และผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ไบเกอร์ส กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดแต่งรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "ไบเกอร์ส" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากภาพรวมของตลาดบิ๊กไบก์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่ายยุโรปและญี่ปุ่นต่างก็ตั้งสายการผลิตในไทย และนำเข้ารถรุ่นใหม่ ๆ มาจำหน่ายหลายรุ่น ทำให้ตลาดมีความคึกคัก

บริษัทจึงมีนโยบายในการผลิตสินค้าให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยจะเริ่มพัฒนาชุดแต่งสำหรับจักรยานยนต์ ขนาด 1,000 ซีซี เป็นครั้งแรกในรถรุ่นฮอนด้า ซีบีอาร์ 1000 หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเน้นการผลิตป้อนกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง 250-650 ซีซี เป็นหลัก ซึ่งเมื่อผลิตชุดแต่งสำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดซีซีเพิ่มขึ้นก็มีรายละเอียดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น

ล่าสุดในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา บริษัทได้แนะนำชุดแต่งสำหรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น 500 ซีซี, ฟอร์ซ่า 300, คาวาซากิ แซด 800 และมีแผนจะพัฒนาสินค้าสำหรับรุ่นซีบีอาร์ 650 ในกลุ่มสปอร์ตและเนคเคดไบก์ แซด 1000 และซูซูกิ จีเอสเอ็กซ์-อาร์ 1000 ต่อไป

การที่บริษัทเจาะกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางขึ้นไป ทำให้หยุดการผลิตชุดแต่งสำหรับรถจักรยานยนต์ทั่วไปลง จากเดิมที่มุ่งเน้นตลาดรถจักรยานยนต์ 100-150 ซีซีเป็นหลัก สินค้าในปัจจุบันจะเริ่มที่ชุดแต่งสำหรับรถจักรยานยนต์ ขนาด 150 ซีซีขึ้นไป อาทิ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150 และฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ เนื่องจากต้องการสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้ผลิตชุดแต่ง บิ๊กไบก์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจากการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับดีจากลูกค้า ทำให้มีผู้แทนจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศแล้วกว่า 19 ประเทศ ซึ่งตลาดส่งออกนั้นมีการเติบโตที่สูงมาก ในช่วงแรกตลาดส่งออกนั้นมีสัดส่วนที่สูงมากกว่า แต่ปัจจุบันลูกค้าในประเทศให้การยอมรับจึงมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น จนมีสัดส่วนยอดขายประเภทละ 50%

ส่วนในด้านการตลาดยังคงเน้นทั้งรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ และอะโบฟเดอะไลน์ ทั้งด้านการโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การร่วมงานแสดงรถยนต์ต่าง ๆ รวมถึงด้านสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งกับการเป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์

ปัจจุบันมีบิ๊กไบก์รุ่นใหม่ออกมามากขึ้น และแนวโน้มตลาดดังกล่าวก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย แม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งรายใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็มีจุดขายที่ชัดเจนด้วยการออกแบบสินค้าและควบคุมคุณภาพการผลิตเอง ซึ่งจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็มีแผนที่จะลงทุนกว่า 350 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินและสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่บางขุนเทียน มีขนาดพื้นที่ 10 ไร่