ค่ายชิ้นส่วนจับตาตลาดรถยนต์ใกล้ชิดหลังตลาดร่วง 50% เร่งเครื่องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต-พัฒนาคน ลุ้นครึ่งปีหลัง "ออร์เดอร์" เริ่มฟื้น หลังค่ายรถญี่ปุ่นเตรียมส่งรุ่นใหม่ลุยตลาด

นายสมเกียรติ ชูพรรคเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี ซี เทค จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในปัจจุบันว่า ผู้ผลิตจะต้องเผชิญกับภาวะคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์ ชิ้นส่วนจากค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ลดลงไปจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ เป็นผลจากความพยายามที่จะสร้างสมดุลการผลิตและสต๊อก ส่งผลให้ปีนี้บริษัทต้องปรับเป้ารายได้ จากปี 2555 ที่เคยทำได้ 160 ล้านบาท และปี 2556 ทำได้ 130 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพียงแค่รักษาระดับรายได้ไว้เท่ากับปีก่อนที่ 130 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ในประเทศ 77% และส่งออก 23% โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากชิ้นส่วนรถยนต์ 39% รถจักรยานยนต์ 59% และอื่น ๆ 2%

อย่างไรก็ตาม บริษัทถือเป็นโอกาสดีในช่วงที่คำสั่งซื้อชะลอลงไป ก็ได้หันมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต บำรุงรักษาเครื่องจักร รวมทั้งการอบรมและพัฒนาบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมไว้สำหรับตลาดที่จะฟื้นกลับมาในเร็ววันนี้ เช่นเดียวกันกับ ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด กล่าวยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศช่วงที่ผ่านมาว่า ตลาดลดลงไปถึง 50% ขณะที่ตลาดรถยนต์โดยรวมเมื่อนับรวมกับตลาดส่งออก จะพบว่าตลาดเติบโตลดลงไปเพียง 25%

สำหรับในส่วนของบริษัทจากการประเมินล่าสุด คาดว่าในช่วง 6 เดือนแรก ยอดขายลดลงประมาณ 20% สำหรับสถานการณ์ทั้งปีขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่เชื่อว่าแนวโน้มตลาดโดยรวมจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลัง ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เตรียมทยอยแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น

เห็นได้จากตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา คำสั่ง ซื้อชิ้นส่วนจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้ลดลงไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากค่ายรถยนต์ได้ปรับลดกำลังผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากกำลังซื้อรถยนต์โดยรวมของตลาดในประเทศอยู่ในภาวะที่ต่ำ โดยในส่วนของบริษัทมียอดสั่งซื้อลดลงไป 20% ในช่วงที่ผ่านมา

ดร.พยุงกล่าวต่อว่า ในส่วนของบริษัทแม้จะมีการชะลอการผลิตออกไปจำนวนหนึ่ง แต่บริษัทก็ยังไม่มีนโยบายในการจะลดคนงานแต่อย่างใด แต่บริษัทใช้วิธีการบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่าง ๆ

"ช่วงที่ผ่านมาหรือวันนี้ เราอาจจะไม่มีการทำโอทีสำหรับโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ในส่วนของโรงงานผลิตอุปกรณ์ตรวจสอบชิ้นส่วน เรายังคงดำเนินงานได้ตามปกติและมีการทำโอทีด้วย ตรงนี้ก็ช่วยให้เราอยู่ได้"

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทปีนี้ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวยต่อการตัดสินใจลงทุนใหม่ ประกอบกับกำลังผลิตที่มียังเพียงพอกับการตอบสนองความต้องการของตลาด และต้องการเก็บกระแสเงินสดไว้ในมือมากกว่า

ดร.พยุงกล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา และคาดว่าปีหน้ารายได้จะเพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัว และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากค่ายรถยนต์เตรียมส่งรถรุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามมิตรแมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) หรือ SMM ผู้ผลิตชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์และรถบรรทุก แม่พิมพ์ขึ้นรูป และอุปกรณ์จับยึด สำหรับโรงงานผู้ประกอบรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทได้เตรียมพร้อมตั้งรับกับสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะออร์เดอร์จากโรงงาน

ผู้ผลิตรถยนต์ หรือโออีเอ็มที่ลดลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทโชคดีที่มีการประกอบรถยนต์บรรทุกแบรนด์ของตัวเอง รวมทั้งบริษัทได้ปรับตัวการทำตลาด ทั้งในส่วนของรถใหม่และรถมือสองอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทในไตรมาสแรกเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลงไป 10.8% ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวมลดลงไปถึง 40% นอกจากนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้บริษัทเน้นนโยบายการลดค่าใช้จ่ายและการดูแลกระแสเงินสดให้ดี