จำนวนผู้เข้าชม : 277 ครั้ง
End Page
 
 
ธุรกิจรับติดตั้งก๊าซรถยนต์ปรับแผนสู้ศึก

ธุรกิจรับติดตั้งก๊าซรถยนต์จัดทัพสู้ ค่ายเอนเนอร์จี รีฟอร์มเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่รองรับรถดีเซลไตรมาส 3 ฟุ้งโตสวนกระแสตลาด ด้านเอสซีจี ปรับแนวรุก จากเอ็นจีวีสู่แอลพีจี เข็นแบรนด์ ลีฟ -LEAF พร้อมอัดแคมเปญและขยายสาขา 100 แห่งภายในสิ้นปี

นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงเดือน พฤษภาคมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเติบโตสวนทางตลาดรวมที่มีการชะลอตัวลงประมาณ 5 -10% โดยปัจจัยที่มีส่วนสนับสนุนมาจากฐานลูกค้าเดิมกลับมาใช้ หรือใช้แล้วบอกต่อ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ขณะที่อีก 20% เป็นฐานลูกค้าใหม่

"เราเติบโตเฉลี่ยเดือนละ 10% หรือบางเดือนก็โตกว่า 20% โดยทุกผลิตภัณฑ์ของเราโตเพิ่มขึ้นหมด เพราะราคาน้ำมันมีการปรับขึ้น-ลงและลูกค้าต้องการความประหยัด ดังนั้นก็จะหันมาติดตั้งระบบก๊าซกับเรา นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยด้านสถานีบริการ ที่แต่เดิมมีแต่รายย่อย แต่ปัจจุบันมีสถานีบริการที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้นที่สร้างโดยปตท.ก็ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของรถที่ติดตั้งก๊าซให้ดูดีมากขึ้น"

ด้านแผนงานในครึ่งปีหลัง ได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ หัวฉีดระบบก๊าซสำหรับรถปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ และอีซูซุ ดีแมคซ์ "เอนเนอร์จี ดีเซล" ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดในไตรมาสที่ 3 ซึ่งหลังจากเปิดตัวจะมีการจัดกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆรวมไปถึงสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ขณะที่แผนงานด้านเครือข่าย ปัจจุบันเอนเนอร์จี รีฟอร์มมีดีลเลอร์ในรูปแบบศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศจำนวน 15 ราย โดยภายในสิ้นปีนี้จะทำการเพิ่มเป็น 20 ราย ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการรับติดตั้งนั้นจะเป็นแบบแฟล็กชิพ ที่มีรูปแบบมาตรฐานตามที่บริษัทวางไว้ และจะแบ่งออกเป็นไซซ์ต่างๆตามพื้นที่ของลูกค้าที่เข้ามารับสมัครเป็นตัวแทนของบริษัท

นายสุรศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้ารับการติดตั้ง มีตั้งแต่อีโคคาร์ ที่แม้จะเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แต่ก็ต้องการที่จะประหยัดกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วกลุ่มรถที่ยังไม่หมดประกัน และรถป้ายแดงก็ตัดสินใจเข้ามาติดตั้งทันที ขณะที่โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์บางแห่งก็มีการนำรถเข้ามาติดตั้งระบบก๊าซเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้า ซึ่งในส่วนนี้เติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

"ภาพรวมของธุรกิจรับติดตั้งในครึ่งปีหลัง หากสถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น และเศรษฐกิจเริ่มนิ่ง ก็คาดว่าจะมีการเติบโต โดยเฉพาะแอลพีจี ที่น่าจะโตกว่า 15-20% เพราะลูกค้ามีการอั้นหรือชะลอกันก่อนหน้านี้"

นายอภิสิทธิ์ ธนาดำรงศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ออโต้แก๊ส จำกัด จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจในส่วนของการติดตั้งเอ็นจีวีหรือซีเอ็นจีนั้นได้รับผลกระทบมาก โดยในปีที่ผ่านมาหดตัวลงกว่า 50% และในปีนี้หากสถานการณ์ต่างๆยังไม่คลี่คลายก็คาดว่าจะตกลงต่ำไปกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่การติดตั้งแอลพีจีนั้นได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยหดตัวลงไปประมาณ 10-15 %

"ธุรกิจหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะสภาพเศรษฐกิจและการเมือง แม้ว่าราคาน้ำมันจะแพงขึ้นแต่ผู้บริโภคก็ชะลอการติดตั้งออกไป นอกจากนั้นแล้วรถใหม่ก็ขายได้น้อยลง เพราะดีมานด์ถูกดึงไปก่อนหน้าตั้งแต่มีโครงการรถคันแรก และแม้ว่าจะมีแคมเปญลดแลกแจกแถม แต่การขายก็ยากขึ้น เพราะดีมานด์น้อยลง ประกอบกับภาครัฐที่เคยบอกว่าจะสนับสนุนเอ็นจีวี ด้วยการขยายสถานีบริการก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ"

นายอภิสิทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางปรับตัวของผู้ประกอบการในตอนนี้ ในส่วนของบริษัทได้เข้ามารุกตลาดรับติดตั้งแอลพีจี ผ่านแบรนด์ "ลีฟ" (LEAF) ชุดอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์มากขึ้น และมีแคมเปญโปรโมชันต่อเนื่อง รวมไปถึงการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจากปัจจุบันที่มีจำนวน 40 แห่ง ก็จะเพิ่มเป็น 100 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ "เดิมทีเราเน้นติดตั้งเอ็นจีวี แต่เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องปรับตัว สัดส่วนการติดตั้งเอ็นจีวีตอนนี้กับแอลพีจี ขยับเป็น 50 /50 % จากเดิมที่เคยเป็น 80/20%"



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 04 มิ.ย. 2557 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc