นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยภายหลังนำสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์การดำเนินงานเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามมาตรฐานใหม่ ว่า กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการทดสอบขับรถด้วยระบบอี-ไดรฟวิ่ง (E-Driving) ซึ่งใช้ระบบคอมพิวเตอร์จับสัญญาณของรถที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายการให้บริการออกไปในกรุงเทพฯอีก 4 เขต คือ ที่สำนักงานพื้นที่ 1-4โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2557 พร้อมกันนี้จะขยายการให้บริการออกไปยังต่างจังหวัดที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากอีกกว่า 20 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา และพังงา เป็นต้น โดยจะดำเนินการได้ในปี 2558 ใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนประมาณ 90 ล้านบาท จากนั้นจะขยายไปยังจังหวัดที่เหลือต่อไป
“ระบบดังกล่าวเป็นระบบที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และแก้ไขปัญหาข้อโต้แย้งจาการใช้ระบบเดิมที่ใช้คณะกรรมการในการพิจารณาผลได้ แต่พบว่าตั้งแต่นำระบบใหม่มาใช้ สัดส่วนผู้ที่สอบผ่านมีเพียง 30% เท่านั้น จากระบบเดิมผ่านถึง70% โดยในแต่ละวันจะมีผู้เข้ารับการทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกประมาณ 150 คน จากผู้ยื่นขอ 200 คนต่อวัน เนื่องจากเต็มศักยภาพการให้บริการแล้ว และในจำนวนดังกล่าวจะมีผู้ที่ผ่านมาทดสอบประมาณ 45-50 คนต่อวัน”
ส่วนการขอรับใบอนุญาติขับขี่ตามมาตราฐานใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2557 เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะประเมินผลทุกๆ 3 เดือน โดยประสานงานกับตำรวจทั่วประเทส เพื่อบันทึกสถิติทางรถยนต์ และเพื่อเปรียบเทียบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงไหน เพื่อพิจารณาปรับปรุงรูปแบบการทำใบขับขี่ให้เหมาะสมต่อไป
เชื่อว่าการปรับปรุงหลักสูตรการอบรมขอรับใบขับขี่ในครั้งนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ โดยสั่งการให้ขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการเรื่องออกใบอนุญาติขับรถยนต์ให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน