บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ปเทงบฯอีก 385 ล้าน ขยายกำลังผลิตรถยนต์-จักรยานยนต์ป้อนตลาดในประเทศ วอนรัฐเร่งดันข้อตกลงการค้าไทย-ยุโรป สู้ค่ายญี่ปุ่น คาดครึ่งปีหลังตลาดรถหรูยังมีหวังยอดขายแตะระดับ 2 หมื่นคัน

นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทว่า ในปีนี้บริษัทได้เตรียมงบฯลงทุนอีกกว่า 9 ล้านยูโร (หรือราว 285 ล้านบาท) สำหรับการลงทุนในโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง จ.ระยอง เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์และเพิ่มกำลังการผลิตทั้งสำหรับรถยนต์และจักรยานยนต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมที่ 8,000 คันต่อปี ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 10,000 คันต่อปี เพื่อรองรับกับความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มการประกอบ

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในรุ่นที่ 2 ที่จะมีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ 1,000 คันต่อปี และสายการผลิตของบริษัทสามารถยืดหยุ่นปรับหรือเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามความต้องการของตลาดซึ่งภาพรวมของตลาดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มตลาดรถพรีเมี่ยมนั้นก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ทำให้ตลาดรถยนต์ชะลอตัว ก่อนหน้านี้จึงเคยประเมินว่าตลาดรถหรูอาจจะมียอดขายลดลงเหลือ 18,000 คัน แต่จากสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลาย ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจึงคาดว่ายอดขายน่าจะแตะระดับ 20,000 คันได้

ด้านตลาดบิ๊กไบก์นั้นในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดขาย 2,234 คัน เติบโต 11% ซึ่งในปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูมียอดขายทั้งปีที่ 400 คัน ส่วนในปีนี้เมื่อมีสินค้ารุ่นใหม่เพิ่ม ก็คาดว่าน่าจะมีตัวเลขยอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (2 ดิจิต)

ทั้งนี้แม้แนวโน้มตลาดบิ๊กไบก์จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็ต้องพิจารณาเลือกนำรถบิ๊กไบก์มาผลิตในไทย ทั้งปัจจัยด้านความต้องการของตลาด ความคุ้มค่าในการลงทุน และความพร้อมด้านโลคอลคอนเทนต์ ซึ่งปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 50%

ส่วนประเด็นที่ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ประเทศญี่ปุ่นได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากข้อตกลง JTEPA ที่จะทำให้มีอัตราภาษีนำเข้าลดลงเหลือ 0% ในปี 2560 นั้น ทำให้ตลาดบิ๊กไบก์มีโอกาสเติบโตสูง และบริษัทเองก็ต้องการให้ภาครัฐได้เดินหน้าเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (ASEAN-EU FTA) ถ้าสามารถผลักดันให้เกิดได้ก็จะมีประโยชน์ด้านการค้าการลงทุนเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ผลิตยุโรปสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

ปัจจุบันจากการที่บริษัทได้เพิ่มไลน์การประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศนั้น ทำให้ราคาจำหน่ายบิ๊กไบก์ลดลงกว่า 30% คือ รุ่นเอฟ 800 อาร์ ราคาเดิม 7.5 แสนบาท ลดลงเหลือ 4.4 แสนบาท รุ่นเอฟ800จีเอส ราคาเดิม 7.6 แสนบาท ลดลงเหลือ 5.3 แสนบาท

รุ่นล่าสุดที่ประกอบในไทย คือ บิ๊กไบก์สไตล์เอ็นดูโร่ "เอฟ800จีเอส" (F800GS) เป็นบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รุ่นที่ 2 ที่ผลิตในประเทศไทย กับเครื่องยนต์ขนาด 800 ซีซี จะสามารถทำการส่งมอบได้ภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูมียอดขาย 3,349 คัน ลดลง 8% มินิ 371 คัน เติบโต 69% หรือคิดเป็นยอดขายรถยนต์เฉลี่ยลดลง 4% ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดขาย 218 คัน ลดลง 7% โดยยอดขายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาขายเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 18% มินิเพิ่มขึ้น 35% บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 27% ซึ่งการเติบโตแบบเดือนต่อเดือนที่เพิ่มขึ้นนี้ แสดงถึงทิศทางของตลาดที่น่าจะเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน