นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯ กำลังเร่งยกร่างกฎกระทรวงให้งดรับจดทะเบียนรถที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือเกิดความเสียหายสิ้นเชิงจนไม่สามารถซ่อมแซมให้ปลอดภัยได้ตามเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพนำรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมาจดทะเบียนเพื่อนำทะเบียนไปสวมให้รถที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย เช่น รถที่ได้จากการโจรกรรมหรือลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร

เมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวบังคับใช้จะส่งผลให้ทะเบียนของรถที่เสียหายร้ายแรงหรือถูกตีเป็นซากรถถูกยกเลิกออกจากระบบโดยเด็ดขาด โดยขณะนี้กำลังเร่งพิจารณายกร่างให้เสร็จใน 1 เดือน จากนั้นเสนอกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในปีนี้

“ยอมรับว่าที่ผ่านมายังมีช่องโหว่ในการรับจดทะเบียนรถที่เสียหายร้ายแรง โดยเฉพาะกรณีซากรถ เมื่อบริษัทประกันภัยประเมิน จ่ายค่าชดเชย และโอนทะเบียนคืนให้ประกันฯแล้ว จะมีการนำทะเบียนของซากรถไปขายต่อให้ผู้สนใจที่มีรถไม่มีป้ายทะเบียน ส่วนใหญ่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย เช่น โจรกรรม หรือนำเข้าหนีภาษี แต่เป็นรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน มาสวมทะเบียนต่อเพื่อใช้งานได้อย่างถูกต้อง ทำให้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ซื้อรถต่อ ที่จะได้รถที่ผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างปัญหาให้กับทางราชการในการกำกับดูแลความปลอดภัย การสูญเสียรายได้จัดเก็บภาษี และอาจเกิดอาชญากรรมด้วย” นายอัฌษไธค์ กล่าว

แต่ระหว่างที่กฎกระทรวงยังไม่บังคับใช้ ได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งเข้มงวดในการดำเนินการทางทะเบียนกับรถที่แจ้งหยุดใช้งาน เนื่องจากประสบอุบัติเหตุและนำกลับมาจดทะเบียนใช้งานใหม่ โดยรถที่ผ่านการซ่อมแซมหรือแก้ไขดัดแปลงสภาพตัวรถ เจ้าของจะต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด พร้อมแนบเอกสารสำคัญที่ลงลายมือชื่อเจ้าของรถทุกฉบับด้วย

ขณะเดียวกันต้องแนบหลักฐานการได้มาของชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ทั้งใบเสร็จค่าซ่อมรถ สำเนาบันทึกแจ้งความเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ หรือภาพถ่ายของรถหลังเกิดเหตุ หนังสือรับรองจากวิศวกรผู้ควบคุมการซ่อมแซม พร้อมภาพถ่ายรถขณะซ่อมแซม และบันทึกคำรับรองไว้เป็นหลักฐานว่าเป็นการซ่อมแซมหรือแก้ไขดัดแปลงจากรถคันเดิมจริง ซึ่งถ้าผ่านการตรวจสภาพและนายทะเบียนอนุญาตให้ใช้รถแล้ว จะประทับตรา รถซ่อมแซมหรือแก้ไขดัดแปลงจากรถที่เกิดอุบัติเหตุไว้ในคู่มือจดทะเบียนรถ

ทั้งนี้ หากพบว่ารถคันใดมีส่วนควบหรืออุปกรณ์ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือเป็นการซ่อมแซมหรือดัดแปลงรถคันอื่นที่ไม่ใช่คันเดิมจะถูกเพิกถอนทะเบียนรถและดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง