งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล เกรดพรีเมี่ยม สูตรใหม่ “คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แรงกว่า ประหยัดกว่า... ยืนยันผลตอบรับดีเยี่ยม” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สะท้อนคุณภาพระดับพรีเมี่ยมของนวัตกรรมล่าสุดจากค่ายเชฟรอน เพื่อเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ โดย นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพ เพื่อผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง โดย “คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี” เป็นผลิตภัณฑ์ น้ำมันดีเซล เกรดพรีเมี่ยม สูตรพิเศษ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลทุกประเภท โดยเฉพาะเครื่องยนต์คอมมอนเรลยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติในการรักษาหัวฉีดน้ำมันให้สะอาดเร่งแรงเต็มสูบ คืนกำลังเต็ม 100% เสมือนรถใหม่ ตอบสนองอัตราเร่งของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมัน ลดควันดำ และลดไอเสียให้น้อยลง พร้อมยืดอายุการใช้งาน ไม่เกิดคราบสนิม ทำให้มั่นใจในการปกป้องเครื่องยนต์ และไม่เกิดฟองอากาศ ทำให้เติมน้ำมันได้เต็มถังอย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจว่า น้ำมันคาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี จะช่วยป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี”
ด้านตัวแทนสมาชิกกลุ่ม CAR CLUB ระดับแนวหน้าที่มาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการพิสูจน์ และยืนยันความแรงเหมือนใหม่ของเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันดีเซล เกรดพรีเมี่ยม สูตรใหม่ “คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี” อย่าง
พิเชษฐ์ ไพพร เว็บมาสเตอร์เว็บไซต์ VigoThailand.com เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า “ผมเองมีโอกาสได้ทดลองใช้ คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี รู้สึกได้ถึงความลื่นของรถ การออกตัวของรถจะพุ่งและแรง อัตราการเร่งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาขับจะสมู้ทมาก ควันดำและไอเสียน้อยลง สำหรับผมแล้วจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถและเครื่องยนต์ คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซลที่ผมเลือก เสมือนว่าได้ดีท็อกซ์ เครื่องยนต์ หรือเป็นการทำความสะอาดเครื่องยนต์ไปในตัวครับ”
อีกหนึ่งกูรูที่มาร่วมการันตีความแรงเหมือนใหม่ อนุชิต ฮงมา จากเว็บไซต์ New D-Max Club.com กล่าวว่า “ผมเองเป็นอีกหนึ่งคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีคุณภาพสำหรับรถและเครื่องยนต์ คาลเท็กซ์ พาวเวอร์ ดีเซล เทครอน ดี ผมมีโอกาสได้ใช้และทดลองแล้วรู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์เงียบขึ้น แรงและพุ่งตอนออกตัว โดยเฉพาะช่วงแซง ด้วยความเร็วของรถที่วิ่งประมาณ 80 กม. / ชม. อีกทั้งรู้สึกได้ว่าประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ”