เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชี้จุดแข็งด้านสินค้า และการตลาดที่ชัดเจนทำยอดขาย 9 เดือนโต 14 % หรือกว่า 7.4 พันคัน พร้อมฟุ้งตลาดฟลีตเจาะกลุ่มโรงแรมรุ่ง ทำยอดขายโตแล้วกว่า 20% ล่าสุดส่งมอบ S-Class จำนวน 60 คันให้กับโรงแรม 5 ดาว 8 แห่ง
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถหรูในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ประเมินยากว่าตลาดจะเป็นอย่างไร แต่คาดว่าตัวเลขการขายรวมจะอยู่ที่ 2 หมื่นคัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น โดยตัวเลขการขายตั้งแต่ มกราคม - กันยายน ทำได้กว่า 7.4 พันคัน เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"เราพยายามจะรักษาระดับการเติบโต 2 หลัก เพราะมีจุดแข็งด้านสินค้า และกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง เฉพาะเดือนกันยายนที่ผ่านมาเราทำยอดขายได้ดีมาก โดยทำได้กว่า 1,240 คัน และเราคาดว่าจนถึงสิ้นปียอดขายน่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาที่เราขายได้ 10,144 คัน และเราประเมินว่าตลาดรวมในปีต่อๆน่าจะมีการเติบโตกว่านี้ เพราะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น และส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา"
ด้านนายมาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่าอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มีส่วนผลักดันยอดขายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้เติบโตมาจากตลาดรถฟลีตหรือองค์กร โดยตัวเลขการขายตั้งแต่มกราคม - กันยายน ทำได้กว่า 604 คัน เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 503 คัน และล่าสุดได้มีการส่งมอบ รถยนต์ S-Class จำนวน 60 คันให้กับโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว จำนวน 8 โรงแรม ได้แก่ โรงแรมแชงกรี-ลา, โรงแรมโฟว์ ซีซั่นส์, โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ,โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ, โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส โรงแรมชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท และโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
"เราเริ่มรุกตลาดฟลีตอย่างจริงจังตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จวบจนไตรมาสที่ 3 ซึ่งมียอดขายเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ก็แสดงให้เห็นถึงการวางกลยุทธ์ทางตลาดที่ชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อเรา"
สำหรับรถรุ่นที่ส่งมอบกันในครั้งนี้ เป็นรุ่น S 300 BlueTEC HYBRID มาพร้อมเครื่องดีเซล 4 สูบแถวเรียง ประกอบในประเทศไทย (CKD) และเทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ผสานเข้ากับการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมระบบควบคุมพลังงาน โดยใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนน้อยที่สุดในทุกสภาวะ
นอกจากนั้นแล้วยังได้รวบรวมนวัตกรรมไม่ว่าจะเป็น AIR-BALANCE package ระบบ active perfuming system ที่เพิ่มความสดชื่นและความรื่นรมย์ โดยการผลิตกลิ่นหอมที่มีให้เลือก 4 กลิ่น สามารถปรับระดับความหอมได้ด้วยตนเอง ENERGIZING Massage ระบบนวดแบบผ่อนคลาย ที่ใช้หลักการนวดเหมือนการใช้หินร้อน สามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 แบบ สำหรับเบาะนั่งด้านหลัง ซ้าย-ขวา โดยระดับความเร็ว และความหนัก-เบาของแรงกดจะแตกต่างกัน ตามแต่ละโปรแกรม
ขณะที่ชุดเครื่องเสียงคุณภาพ Burmester® surround sound system ให้ระบบเสียงคมชัดเซอร์ราวด์รอบทิศทางแบบ "feel-good sound" ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับระบบ frontbass system ซึ่งเป็นระบบที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้และได้นำมาใช้ในรถยนต์ซาลูนเป็นครั้งแรก
"The new S-Class ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า ดังจะเห็นจากยอดสั่งซื้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายรถยนต์ในรุ่นนี้ได้สูงกว่า 1.1 แสนคันทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และด้วยยอดจำหน่ายนี้จะทำให้ S-Class เป็นซาลูนระดับพรีเมียมที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก"