นครชัยแอร์ทุ่ม 700 ล้านเปิดบริการ ออล ไทย แท็กซี่ นำรถป้ายแดงพริอุส ไฮบริด 500 คัน ให้บริการเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น คิดค่าโดยสารตามมิเตอร์ +ค่าเรียก 20 บาท เพิ่มเลดี้ แท็กซี่ ประกันความปลอดภัยให้สตรี ด้านขนส่งฯ มั่นใจเป็นต้นแบบบริการแท็กซี่ไทย ช่วยแก้ปัญหาเรื้อรัง

นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านบาท เปิดตัวให้บริการแท็กซี่รูปแบบใหม่ ออล ไทย แท็กซี่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และรถยนต์โตโยต้าพริอุส ไฮบริด ป้ายแดงมาให้บริการ โดยมีแผนเปิดให้บริการ 500 คัน เบื้องต้นเริ่มเปิดให้โหลดแอพพลิเคชั่น กับทดลองวิ่งได้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ก่อนเปิดให้บริการเป็นทางการวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป คิดค่าบริการค่าเรียก 20 บาท และค่าโดยสารตามมิเตอร์ที่กระทรวงคมนาคมกำหนด

สำหรับวิธีเรียกใช้บริการ เรียกผ่านแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน เรียกผ่านสายด่วน 1624 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกรณีหากเห็นวิ่งตามท้องถนนและไม่ขึ้นเครื่องหมายจอง ก็สามารถโบกเรียกได้ ซึ่งรับประกันว่าออล ไทย แท็กซี่ จะไม่มีการปฏิเสธผู้โดยสารแน่นอน โดยบริษัทคาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะสามารถคุ้มทุนได้ภายใน 5-7 ปี และออล ไทย แท็กซี่ จะไม่ส่งผลกระทบการแข่งขันกับแท็กซี่ทั่วไป เพราะเป็นการเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น ไม่ได้วิ่งตามถนนทั่วไป

“บริษัท ออล ไทย แท็กซี่ ซึ่งอยู่เครือนครชัยแอร์ ตั้งใจพัฒนาให้เป็นแท็กซี่ต้นแบบที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้บริการแท็กซี่ไทย โดยเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัย และความทันสมัยให้ประชาชน เช่น รถไฮบริดประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ แอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกใช้ ตรวจสอบเส้นทาง และร้องเรียนปัญหา มีระบบจีพีเอสติดและกล่องดำบันทึกข้อมูลคนขับ ป้ายติดตามความเร็ว จอภาพเพื่อความบันเทิง รวมถึงบริการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม ขณะที่คนขับแท็กซี่จะเป็นพนักงานของนครชัยแอร์ทุกคน ที่ผ่านการอบรม มีเงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น และโบนัสต่างๆ มากกว่า 1,000 คน รวมถึงมีบริการเลดี้ แท็กซี่ คนขับที่เป็นผู้หญิง เพื่อให้บริการแก่สุภาพสตรีด้วย” นายอนันต์กล่าว

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมมีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ทุกรายเร่งปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้น โดยการบริการออล ไทย แท็กซี่ ถือเป็นรายแรกที่ทำ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแท็กซี่ต้นแบบที่ช่วยยกระดับบริการแท็กซี่ของไทยให้ทันสมัย และจะช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น หลังจากนี้กรมการขนส่งทางบกจะเร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่รายอื่นๆ เข้าร่วมพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่ไทยให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องต่อไป

“ที่ผ่านมาการให้บริการด้วยรถแท็กซี่ยังพบปัญหาการร้องเรียนในประเด็นการปฏิเสธผู้โดยสาร การไม่ใช้มาตรมิเตอร์ สภาพตัวรถ รวมถึงมารยาทคนขับ ซึ่งกรมหวังว่าการร่วมมือกับผู้ประกอบการครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบริการแท็กซี่ไทยในอนาคต และหลังจากนี้มีผู้ประกอบการหลายอื่นสนใจร่วมยกระดับบริการด้วย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าปัญหาร้องเรียนแท็กซี่ก็ลดลง โดยกรมจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเป็นส่วนหนึ่งประกอบการประเมินขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์รอบสองในช่วงกลางปีด้วย” นายธีระพงษ์กล่าว.