จำนวนผู้เข้าชม : 293 ครั้ง
End Page
 
 
“เปิดตัวรถยนต์ไฮไลท์คึกคัก หลายค่ายจัดเต็มทุกเซกเม้นต์” มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 “

บีเอ็มดับเบิลยู (บูท : A1)

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย : ค่ายใบพัดฟ้าขาวจากเยอรมัน 1 ในหลายบริษัทรถยนต์ ซึ่งลงทุนก่อสร้างบูทเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อให้สมศักดิ์ศรีแห่งความเป็นลักชัวรีคาร์ระดับโลก โดยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ บีเอ็มดับยูมีไฮไลท์เด็ดมาโชว์ในหลากหลายรุ่น เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก สำหรับ “บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3” รถแฮชท์แบค 3 ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแนวคิด “Life Drive” หมายถึง ชีวิตและการขับขี่

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบด้วยดีไซน์ใหม่หมด ให้ความทันสมัยรอบคัน ตัวถังผลิตขึ้นจากพลาสติกคาร์บอนไฟเบอร์สุดทันสมัย ทำให้รถมีความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาเพียง 1,315 กก. เท่านั้น โดยระบบช่วงล่างผลิตจากอลูมิเนียมทั้งหมด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้จากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 22 กิโลวัตต์ ติดตั้งกลางตัวรถ โดยแบตเตอรี่จ่ายพลังงานสู่มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งติดตั้งอยู่กับล้อหลัง ให้กำลังรวม 170 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่มีให้เลือกปรับได้ 3 แบบ คือ Comfort, Eco Pro และ Eco Pro+ ให้ความมั่นใจด้วยระบบช่วงล่างแม็คเฟอร์สัน-สตรัท และระบบกันสะเทือนด้านหลัง 5 จุดเชื่อมโยง

 นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยูพร้อมเปิดตัวอีก 1 รุ่นเด็ด ‘ซีรีส์ 2 แอคทีฟ ทัวร์เรอร์’ รถเอ็มพีวีแฮตช์แบ็กต์ 5 ที่นั่ง นับเป็นสายการผลิตเอ็มพีวีรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู มาพร้อมด้วยดีไซน์แปลกตาโดยในต่างประเทศช่วงปลายปี 2013 บีเอ็มดับเบิลยู เริ่มจำหน่ายซีรีส์ 2 รุ่นตัวถังคูเป้และเปิดประทุน จากนั้นจึงพัฒนาต่อยอดเป็นเอ็มพีวี เพื่อจำหน่ายจริงในชื่อ ‘ซีรีส์ 2 แอคทีฟ ทัวร์เรอร์’ โดยมีชื่อรหัสตัวถังเป็น ‘เอฟ45’ ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ความรู้สึกกะทัดรัดและคล่องตัวต่อการใช้งาน

โดยซีรีส์ 2 แอคทีฟทัวเรอร์ เปิดตัวในไทยด้วยรุ่นย่อย 218 ไอ มีรูปลักษณ์ภายนอก เป็นเอ็มพีวีด้านหน้าลาดลง-ท้ายตัด โดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่ทรงโต ผสานโคมไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมหลังคาสูงโปร่ง เติมเต็มความสปอร์ตด้วยเส้นสายด้านข้างโฉบเฉี่ยว มิติตัวถัง ยาว 4,342 มม. กว้าง 1,800 มม. และสูง 1,555 มม. ระยะฐาน 2,670 มม.

ห้องโดยสารเน้นความหรูหราเรียบง่าย ผสานทัศนะวิสัยการมองที่ชัดเจน โดยวางตำแหน่งเบาะผู้ขับให้เยื้องเข้าหาส่วนกลางของรถ แบบเซมิ คอมมานด์ - Semi Commandเบาะนั่งผู้โดยสารด้านสามารถพับแยกได้ทั้ง 60/40 หรือ 40/20/40 รองรับการใช้งานหลากหลาย อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบวางขวาง 3 สูบ 1.5 ลิตร 136 แรงม้า แรงบิด 22.44 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. เกียร์อัตโนมัติ เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 21.7 กม./ล. ให้สมรรถนะการขับนุ่มนวลด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังมัลติลิงค์ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว


ฟอร์ด (บูท : A2)

 

ฟอร์ด ประเทศไทย : ก่อนหน้านี้... ฟอร์ดเคยเผยโฉมคอนเซ็ปต์คาร์เอสยูวีต้นแบบแห่งอนาคต ออกมาให้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในปีนี้ถึงคิวที่ต้องเปิดเผยโฉมคันที่พร้อมจำหน่ายจริงกันบ้าง โดยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ฟอร์ดพร้อมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญกับการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนกับ “ฟอร์ด เอเวอร์เรส” เอสยูวี 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์ภายนอกให้ความรู้สึกดุดันมากขึ้น ด้วยโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม

สมบูรณ์แบบด้วยฟังค์ชั่นทันสมัยรอบคัน เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ, ระบบการเลือกปรับอัตราทด (Terrain Management System), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (adaptive cruise control) ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารซิงก์ 2 (SYNC2), ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid), ระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert) นับเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยพลิกโฉมตลาดรถเอสยูวีในเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะให้สมรรถนะที่ดีทั้งการขับในเมือง และเร้าใจมากยิ่งขึ้นกับการขับในสไตล์ออฟโรด

นอกจากนี้ ฟอร์ด ได้จัดงานเปิดตัวครั้งแรกในโลก สำหรับ “นิว เรนเจอร์” (ที6) ปิกอัพคันแกร่ง ซึ่งได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยมีการแชร์พื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีหลายอย่างมาจากฟอร์ด เอเวอร์เรส จึงทำให้ปิกอัพคันนี้เป็นที่จับตามมองเป็นพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36”


เมอร์เซเดส เบนซ์ (บูท : A3)

 

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด : เฉลิมฉลองการครบรอบ 110 ปี ในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ เปิดตัวยนตรกรรมหรูพร้อมกันหลากหลายรุ่น ครอบคลุมการทำตลาดในทุกเซกเมนต์ เริ่มตั้งแต่ The New CLA Shooting Brake รถคอมแพ็คแบบ 5 ประตู, The New V-Class รถอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง, The New GLE-Class Coupé ยนตรกรรมสุดหรูที่ควบรวมดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวในสไตล์คูเป้ มาผสานไว้กับเอสยูวีได้อย่างลงตัว และ The New C-Class BlueTEC HYBRID อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ซึ่งได้รับการประกอบขึ้นจากโรงงานในประเทศไทย (CKD)

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว “เอเอ็มจี-จีที – AMG-GT S” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูง มาพร้อมด้วยดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวรอบคัน มีตัวถังขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และโค้งมนเพื่อให้แรงกดตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดี มีสไตล์ที่ไม่เหมือนใครด้วยประตูทรงปีกนกเปิดขึ้นด้านบน ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี8 4.0 ลิตร 3982 ซีซี 32 วาล์ว เทอร์โบคู่ ให้พลัง 510 แรงม้า แรงบิด 52.04 กก.-ม. ที่ 1750-4750 รอบต่อนาที พร้อมใช้อ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง (Dry Sump) ป้องกันของเหลวไหลเทไปด้านใดด้านหนึ่งของเครื่องยนต์ เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

ทั้งหมดได้รับการพัฒนาโดยเอเอ็มจี ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของเมอร์เซเดส เบนซ์ โดยล่าสุดเอเอ็มจี-จีที ได้รับเลือกให้เป็นเซฟตี้คาร์ในการแข่งขันรถฟอร์มูล่า 1 ชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2015


ซูซูกิ (บูท : A4)

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด : สร้างเซอร์ไพรส์ให้ตลาดรถยนต์นั่งไทยอีกครั้ง เตรียมเผยโฉม “ซีอาส - Ciaz” รถยนต์ในกลุ่มบี-เซกเมนต์ ซึ่งได้รับการต่อยอดมาจากรถต้นแบบ “ซูซูกิ ออเทนติก” จนกลายเป็น “อีโคคาร์ ซีดาน” ที่มีความลงตัวในทุกสัดส่วน เริ่มตั้งแต่ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ กระจังหน้าโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมให้ความหรูหราและใหญ่มากขึ้น ด้วยมิติตัวถังยาว 4,490 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,485 มม. และระยะฐานล้อ 2,652 มม.

ห้องโดยสารยกระดับความหรูหรา ด้วยการตกแต่งแบบทูโทนสีดำและสีน้ำตาลอ่อน คั่นด้วยลายไม้สีน้ำตาลเข้ม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส ควบคู่กับระบบนำทาง GPS ปุ่มกดสตาร์ทรถ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมมีช่องแอร์ที่ด้านหลัง

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ในรหัส K12B ความจุ 1.25 ลิตร 4 สูบ 91 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 12 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที มีระบบวาล์วแปรผัน VVT สามารถรองรับเชื้อเพลิง อี20 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 


โรลส์-รอยซ์ (บูท : A5)

โรลส์-รอยซ์ : เปิดตัวยนตรกรรมไฮคลาส Phantom Drophead Coupe Waterspeed Collection ซึ่งผลิตออกมาเป็นรุ่นพิเศษ  มาพร้อมชุดแต่งหลากหลายรูปแบบ สำหรับชื่อรุ่นเป็นการอุทิศให้กับ “เซอร์มัลคอม แคมป์เบล-Sir Malcolm Campbell” ผู้สร้างสถิติความเร็วสูงสุดในการขับเครื่องบินไฮโดรเพลน Bluebird K3 บนผิวน้ำ ด้วยความเร็วสูงสุด 208 กม./ชม. ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1937

รูปลักษณ์ภายนอกใช้สีฟ้า Maggiore Blue ให้ความสดใสเหมือนสีน้ำทะเล ซึ่งมีทีเด็ดอยู่ที่การพ่นเลเยอร์สีซ้อนกันถึง 9 ชั้น  โดยฝาครอบเครื่องยนต์ก็มีสีฟ้า Maggiore Blue เช่นเดียวกันอีกด้วย ในส่วนของห้องโดยสารตกแต่งด้วยไม้ Abachi พวงมาลัยทูโทน ในส่วนของคอนโซลใช้หนังคุณภาพดี ใช้การตัดเย็บมือเป็นเวลานานถึง 8 ชั่วโมง จึงได้ผลงานที่มีความปราณีตเป็นพิเศษ

ขุมพลังการขับเคลื่อนมาจากเครื่องยนต์ วี12 ความจุ 6.75 ลิตร 453 แรงม้า แรงบิด 73.36 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที เปิดตัวครั้งแรกในไทย ที่งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” ในราคา 59 ล้านบาท พร้อมการผลิตแบบจำกัดจำนวนเท่านั้น


มิตซูบิชิ  (บูธ : A6)

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด : ชูความโดดเด่นด้วยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ด้วยปิกอัพยอดนิยม “ไทรทัน” ซึ่งมีความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องของการดีไซน์ และสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ไม่เป็นรองใคร

พร้อมเปิดตัวและจำหน่าย “เดลิกา ดี : 5” รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัย ให้สมรรถนะพร้อมดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบลงตัวทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารกว้างขวาง สามารถรองรับได้ถึง 7 ที่นั่ง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ยกระดับสู่ความเป็นยานยนต์สำหรับครอบครัวที่ลงตัวมากที่สุด

นอกจากนี้มีการเปิดตัว “แอททราจ” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมใหม่ปี 2015 ซึ่งภายนอกให้ความดุดันมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมรมดำ พร้อมล้ออัลลอย 15 นิ้ว สีเงินรมดำ ห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะหนังสีดำ สปอร์ตเร้าใจจากการตัดเย็บด้วยด้ายสีแดง พร้อมเปิดตัวสีใหม่ “เทาไทเทเนียม” อีกด้วย

 


นิสสัน (บูธ : A7)

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด : เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง ยกทัพมาจัดแสดงโชว์ครบทุกรุ่นและทุกเซกเมนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นำเสนอยนตรกรรม 4 รุ่น คือ “นิสสัน จู๊ค ใหม่”ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Bold and Futuristic Design ดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ ดุดันด้วยไฟรี่ LED รูปทรงใหม่แบบ Boomerang Shape ล้ำสมัยและเฉียบคมด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนท้ายใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยระบบสื่อสาร EZ Talk ปลอดภัยเต็มขั้นด้วยถุงลม 6 จุดรอบคัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ประเภทคอมแพค “สปอร์ตครอสโอเวอร์”

“นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่” รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในโดดเด่นเหนือใคร ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้ เช่น ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ภายในห้องโดยสารมีจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว จัดวางตำแหน่งที่นั่งแบบ 3 แถว ในลักษณะ 5+2 มีซันรูฟแบบพาโนรามิค เชื่อมต่อสังคมออนไลน์ด้วย NISSAN CONNECT

“นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ” นับเป็นครั้งแรกในตลาดรถปิกอัพตอนเดียว ที่มีติดตั้งกล้องมองหลัง และที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมนำเสนอผู้ที่ต้องการพลังงานทางเลือกด้วย นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ทุกตัวถัง ทำให้นิสสันมีรถปิกอัพครบทุกการใช้งาน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกระดับ

พร้อมกระตุ้นตลาดอีโค คาร์ ด้วย “นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค” ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบความเป็นรถสปอร์ต มาพร้อมกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และมีช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ มีสเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนภายในสีโครเมียมรมดำ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย Sportech


มาสด้า (บูธ : A8)

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด : ค่ายรถยนต์ที่ผสานการออกแบบด้วยดีเอ็นเอแห่งความสปอร์ตในรถทุกรุ่น ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้รับการจับตามองในเรื่องเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาเป็นพิเศษ โดยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เพราะมีการเปิดตัว “มาสด้า 2 เครื่องยนต์เบนซิน” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

โดยมาสด้า 2 ใหม่ เคยเปิดตัวในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ในมอเตอร์โชว์ปีนี้ มาสด้า2 พร้อมที่ตัวด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.3 ให้พลัง 93 แรงม้า แรงบิด 12.75 กก.-ม. พร้อมทำตลาดในเมืองไทยด้วยรุ่นตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู หรือซีดาน 4 ประตู โดยทั้ง 2 รุ่น ยังมีการแบ่งออกเป็นรุ่นย่อย 6 รุ่น


โตโยต้า (บูธ : A10)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด : เปิดตัวรถใหม่ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงานพร้อมกันถึง 3 รุ่น คือ “อัลฟาร์ด ใหม่” รถอเนกประสงค์ระดับลักชัวรี นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของสายการผลิตในรถระดับผู้บริหาร เน้นความสะดวกสบายและหรูหราภายในห้องโดยสารรอบคัน มีให้เลือก 3 รุ่น คือ เครื่องยนต์เบนซิน 2,5 ลิตร ขุมพลัง 182 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ หรือ Super CVT-I พร้อมอัตราประหยัดเชื้อเพลิง 12.8 กม./ลิตร, เครื่องยนต์ วี6 ความจุ 3.5 ลิตร 280 แรงม้า เกียร์ Super ECT 6 จังหวะ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราประหยัดเชื้อเพลิง 9.5 กม./ลิตร

และอัลฟาร์ดในรุ่นไฮบริด ซึ่งเป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 152 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 4 ตัว ที่ถูกฝังไว้ตามล้อข้างต่างๆ สำหรับล้อคู่หน้าให้กำลัง 142 แรงม้า ล้อหลังให้กำลัง 68 แรงม้า ให้อัตราประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 19.4 กม./ลิตร

อีก 1 ไฮไลต์ของโตโยต้า คือ “คัมรี ใหม่” ซึ่งมาในโฉมไมเนอร์เชนจ์ 2015 มี 6 รุ่นย่อย 2 ขนาดความจุเครื่องยนต์ เริ่มจากในรุ่น 2.0G กับรุ่น 2.0G Extremo ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทคโนโลยีวาล์วอัจฉริยะ VVT-iW ระบบการฉีดน้ำมันแบบ D-4S ให้ความแม่นยำสูง ขุม 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 20.3 กก.-ม ที่ 4,600 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Sequential Shift รองรับ อี20

สำหรับรุ่น 2.5G ใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 4 สูบ  2.5 ลิตร 2A R-FE DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i พลัง 181 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 23.57  กก.-ม. ที่ 4,100 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับ อี20, รุ่น 2.5HV Premium 2.5HV Navigator 2.5HV CD เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 160 แรงม้า ให้แรงบิด 21.73 กก.-ม. จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์ แรงบิด 27.55 กก.-ม. โดยใช้พลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย

ในรุ่นเครื่องยนต์ วี6 ความจุ 3.5 ลิตร พลัง 280 แรงม้า ระบบส่งกำลังเกียร์ Super ECT 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีอัตราประหยัดเชื้อเพลิง 9.5 กม./ลิตร และรุ่นไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ให้พละกำลัง 152 แรงม้า ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ฝังไว้ที่ล้อด้านต่างๆ ซึ่งล้อหน้าให้กำลัง 142 แรงม้า ล้อหลังให้กำลัง 68 แรงม้า จึงมีอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 19.4 กม./ลิตร

และล่าสุดกับการเปิดตัว “โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น” รถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์จากสนามแข่งขันระดับโลกอย่างนูร์เบอร์กริง ดีไซน์โฉบเฉี่ยวชัดเจนทั้งภายนอกและภายใน ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่น่าหลงไหล มาพร้อมช่วงล่างใหม่ ซึ่งออกแบบเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ให้สอดคล้องกับการขับขี่แบบสปอร์ตมากขึ้น ผสานกับครีบแหวกม่านอากาศ ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านอากาศและลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน

เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังด้วย เครื่องยนต์เบนซิน DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง 1,800 ซีซี และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อเพิ่มอารมณ์การขับแบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

 

โปรดติดตามต่อไปเร็วๆนี้



 
 ผู้บันทึก :
date : [ 24 มี.ค 2558 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc