จำนวนผู้เข้าชม : 214 ครั้ง
End Page
 
 
นวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิพบกับรถบีเอ็มดับเบิลยู i3 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิล อนเซ็ปต์ X5 eDrive มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และครั้งแรกกับการเปิดตัว บีเอ็มดั

ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ

  • บีเอ็มดับเบิลยู i3
  • บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer
  • บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive
  • มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์
  • มินิ พร้อมชุดแต่งสยาม แพ็คเกจ

 

กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ด้วยการจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive และการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีไฮไลท์สำคัญอื่นๆ ของงานได้แก่ มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และมินิพร้อมชุดแต่งสยามแพ็คเกจ  ผู้เยี่ยมชมบูธบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ของแบรนด์ระดับโลกอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งนำทัพยนตรกรรมหรูทั้งสามแบรนด์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มาจัดแสดงอย่างคับคั่ง ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยลูกค้าสามารถรับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานได้ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค  เมืองทองธานี




บีเอ็มดับเบิลยู i3

บีเอ็มดับเบิลยู i3 ซึ่งจะจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ตอบสนองความท้าทายสำหรับการขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว การจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 ในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแท้จริง

นิยามของการเดินทางในเมืองแบบใหม่นั้น ต้องอาศัยความคิดที่ก้าวไปมากกว่าการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ  การขับขี่ที่ปราดเปรียว จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบทางสถาปัตยกรรม LifeDrive ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู i3 โดยเฉพาะ โครงสร้างการออกแบบนี้ประกอบด้วยสององค์ประกอบ คือ Life โมดูล และ  Drive โมดูล สำหรับ Life โมดูลนั้นคือห้องโดยสารของตัวรถซึ่งเปรียบเสมือนเรือนกระจก เกิดจากการนำวัสดุเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน (CFRP) มาปฏิวัติใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรก วัสดุนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของบีเอ็มดับเบิลยู i3 เส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอนนี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเหล็ก ขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าถึงร้อยละ 50 และเบากว่าถึงร้อยละ 30 หากเทียบกับอะลูมิเนียม ส่งผลให้ยานยนต์ระบบไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีน้ำหนักเพียง 1,315 กิโลกรัม และสามารถเร่งความเร็วจาก  0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที

ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา และความแข็งแกร่งที่สามารถรับแรงดึงระดับสูงของเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องโดยสาร ขณะที่ลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ส่งผลให้สามารถใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กลงและเบากว่า นำไปสู่ระยะเวลาในการชาร์จไฟที่ลดลงและระยะทางในการขับขี่ที่ไกลยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกแบบ Life โมดูลยังช่วยถ่วงศูนย์ให้กับบีเอ็มดับเบิลยู i3 เสริมความลื่นไหลมั่นคงในการขับขี่อีกด้วย

สำหรับ Drive โมดูล ซึ่งผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ กระบวนส่งกำลังแบบไฟฟ้า ระบบรองรับการกระแทก MacPherson และระบบรองรับแรงกระแทกด้านหลังเชื่อมต่อ 5 จุด พร้อมทั้งโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างนี้วางแบตเตอรี่ไว้บริเวณล้อหลัง มอบสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มเพิ่มแรงขับ ให้กับ  ตัวรถอีกด้วย

ประโยชน์อีกด้านของแนวคิดด้านสถาปัตยกรรม LifeDrive นี้ยังรวมถึงการออกแบบโดยปราศจากซุ้มเกียร์ จากการแยก Drive โมดูลออกมา ซึ่งแตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู i3 มีพื้นที่         ใช้สอยภายในเทียบเท่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ในขณะที่มีมิติภายนอกเทียบเคียง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 ในขนาดที่เล็กกว่า

  • กำลัง 170 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และมอเตอร์ไฟฟ้ามอบแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ ระบบไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้ไกลถึง 130-160 กิโลเมตร ในชีวิตประจำวัน
  • ยานยนต์ระบบไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มาพร้อมกับความสามารถในการเพิ่มระยะขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 650 ซีซี ซึ่งมอบกำลัง 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวจะสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระยะขับเคลื่อนสูงสุดต่อวันได้ถึง 300 กิโลเมตร ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน
  • ระบบกระจายน้ำหนักสมดุลที่ 50-50
  • ใช้เวลาเพียง 30 นาที ชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน DC quick-charge
  • ใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน AC quick-charge ด้วย BMW i Wallbox 
  • ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่านเต้าเสียบทั่วไป



บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer

การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นการขยายสายผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยูให้ครอบคลุมอีกเซ็กเมนท์หนึ่ง โดยสมาชิกใหม่ของยนตรกรรมหรูคอมแพคนี้ ผสมผสานความสะดวกสบาย พื้นที่การใช้งานอเนกประสงค์เข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ความสง่างาม และสไตล์ที่โดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างกลมกลืน โดยรุ่น Active Tourer เป็นการต่อยอดโมเดลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 เพิ่มเติมจากรุ่น Coupe ก่อนหน้า ด้วยการออกแบบที่ลงตัวส่งผลให้ รุ่น Active Tourer มอบมิติภายนอกของรถยนต์คอมแพคพร้อมทั้งความรู้สึกปลอดโปร่งกว้างขวางภายในห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม

  • พื้นที่เก็บสัมภาระอเนกประสงค์ ซึ่งเพิ่มพื้นที่จากความจุ 468 ลิตร เป็น 1,510 ลิตร และสามารถปรับเบาะด้านหลังแยกแบบ 40:20:40 ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นด้วยเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ช่วยเพิ่มระยะระหว่างเข่ากับเบาะหน้า หรือเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีแผ่นรองพื้นที่พับเก็บได้สำหรับซ่อนพื้นที่เก็บสัมภาระ ซึ่งมาพร้อมกับถาดรองสัมภาระที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลายอีกด้วย
  • บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เปิดตัวด้วย the new BMW 218i Active Tourer M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบที่มาพร้อมกับความสามารถในการประหยัดพลังงานและพลังขับเคลื่อนที่โดดเด่น เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มอบแรงม้าสูงถึง 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า
  • แชสซีที่ได้รับการพัฒนาใหม่ประกอบด้วย ระบบรองรับแรงกระแทกสปริงเชื่อมต่อจุดเดียวติดตั้งบริเวณล้อหน้าและแบบเชื่อมหลายจุดที่แกนหลัง พร้อมผสานความคล่องตัวและมีทิศทางที่แม่นยำของตัวรถด้วยระบบรักษาเสถียรภาพการควบคุมและระบบรองรับแรงกระแทกเพื่อความนุ่มสบาย
  • เพื่อเสริมความโดดเด่นให้แก่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer บนท้องถนน จึงสามารถเลือกชุดแต่ง M Aerodynamics แพกเกจ และ ล้ออัลลอย M light-alloy wheels ขนาด 18 นิ้ว สำหรับตกแต่งภายนอก และเสริมสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์แบบด้วย พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M รวมไปถึงเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตสำหรับภายในห้องโดยสารได้อีกด้วย



บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive

บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ประสบความสำเร็จในการผสมผสานสุนทรียภาพในการขับขี่ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ xDrive all-wheel-drive และสัมผัสแห่งความหรูหราของบรรยากาศภายในห้องโดยสาร มอบประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์ซึ่งมาในรูปแบบของยานยนต์ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด

ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบมอบกำลังถึง 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งมอบกำลัง 70 กิโลวัตต์/95 แรงม้า โดยมีแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งสามารถชาร์จไฟจากเต้าเสียบที่บ้านได้ พร้อมทั้งความสามารถในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดแบบปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร

นอกเหนือจากการตั้งค่าการขับเคลื่อนในปุ่ม BMW Driving Experience Control อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้น บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 รูปแบบตาม ความต้องการของผู้ขับขี่และสภาวะเส้นทางที่เผชิญ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะไฮบริดซึ่งนำความแกร่งและการประหยัดพลังงานมาผสานกันอย่างกลมกลืน (AUTO eDrive) ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (MAX eDrive) และโหมด SAVE Battery เพื่อรักษาระดับประจุในแบตเตอรี่ไว้เท่าเดิม

ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความคล่องตัวจะประทับใจกับฟีเจอร์การเลือกแหล่งพลังงาน โดยบีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive มาพร้อมกับสายเคเบิลสำหรับชาร์จไฟทุกคัน แบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งบริเวณใต้พื้นที่เก็บสัมภาระแทบจะไม่ส่งผลต่อพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางซึ่งสามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ใบ หรือวางถุงกอล์ฟขนาด 46 นิ้วได้มากถึง 4 ใบ




มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์

ภายหลังการเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่กรุงเจนีวา บรรดาแฟนมินิชาวไทยจะได้ร่วมสัมผัสถึงรายละเอียดของคอนเซ็ปต์ยนตรกรรมมินิรุ่นล่าสุดนี้ ณ บูธมินิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับแนวคิดที่เปี่ยมไปด้วยความละเอียดซับซ้อน ล้ำสมัยโฉบเฉี่ยว และความสง่างาม โดยการออกแบบที่โดดเด่นของมินิได้รับการเติมเต็มด้วยการนำวัสดุคุณภาพสูงมาใช้ในnทุกรายละเอียด รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและวัสดุที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ การนิยามความหมายใหม่ของมินินี้ยังคงยึดสไตล์ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ทำให้สามารถจดจำความเป็นมินิได้ในแรกเห็นทั้งการออกแบบตกแต่งภายนอกและภายใน โดยคอนเซ็ปต์ของการนำสีและวัสดุแบบใหม่มาใช้มอบนิยามใหม่ให้แก่ความหรูหราแบบร่วมสมัยและคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในเซ็กเมนท์รถยนต์นี้

  • ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ มินิเป็นตัวแทนของการใช้พื้นที่ขนาดเล็กที่สุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเพิ่มความยาวและความกว้างมากกว่ามินิ คลับแมนรุ่นปัจจุบันที่ 26 และ 17 เซนติเมตรตามลำดับ ให้แก่คอนเซ็ปต์รถยนต์ใหม่ ส่งผลให้มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ก้าวขึ้นเป็นยนตรกรรมในคลาสใหม่
  • การออกแบบทุกส่วนของมินิเต็มไปด้วยความปราดเปรียวที่เป็นเอกลักษณ์ แนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนให้เห็นถึงพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น การดีไซน์คอนเซ็ปต์ใหม่ยังมอบความสง่างามเหนือระดับที่ได้รับการเน้นให้โดดเด่นด้วยขนาดตัวรถที่กว้างขวาง นอกจากนี้มุมมองด้านข้างยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้ในทันที จากฐานล้อที่ยาว การวางตำแหน่งกระจกที่ราบเรียบและระยะห่างจากล้อถึงกันชนหน้าที่สั้นแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของมินิ
  • การออกแบบที่โดดเด่นที่สุดในส่วนท้ายของตัวรถคือประตูที่สามารถเปิดแยกซ้ายขวาได้ กรอบประตูแบบดั้งเดิมได้รับการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ซึ่งจากเดิมเป็นโลหะ ในส่วนของตัวประตูและกรอบที่ล้อมรอบบริเวณส่วนท้ายทั้งหมดของตัวรถมอบความรู้สึกสุขุม เรียบหรู
  • พื้นที่ภายในตัวรถกว้างขวางขึ้นเช่นเดียวกับมิติภายนอก มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับ 4 ประตู และ 5 ที่นั่งมอบพื้นที่กว้างกว่าเดิมเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
  • การนำวัสดุแบบใหม่มาใช้ในการตกแต่ง โดยนำหนังนูบัคสีฟ้าสดใส หนังแก้ว Berry Red เม็ดสีแจ่มชัด หนังเกรดพรีเมี่ยมสัมผัสอ่อนนุ่มสีดำ มาผสมผสานกันเพื่อมอบบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟสไตล์มินิ อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังเสริมด้วยวัสดุเคลือบเงินมอบความพรีเมี่ยมเหนือระดับอีกด้วย
  • ฟีเจอร์ภายในที๋โดดเด่นที่สุดของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้แก่ บริเวณแผงหน้าปัดหุ้มด้วยหนังสีฟ้า อมเทาผสมกับพื้นผิวเซรามิกพอร์ซเลนสีขาว ในส่วนแผงหน้าปัดสีดำที่อยู่เหนือขึ้นไปมอบรูปลักษณ์และความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ขณะที่ไฟด้านหลังแบบซ่อนหลอดไฟให้แสงทางอ้อม มอบบรรยากาศหรูหราเหนือระดับให้แก่ส่วนคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างน่าประทับใจ

แคมเปญพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:

-       BMW 116i และ 116i M Sport  : iPad Air 2 (64 GB WIFI)

-      BMW X1 sDrive18i, X1 sDrive18i Line และ M Sport, X1 sDrive20d Line และ M Sport,BMW 3 Series GT: Rimowa Salsa Deluxe 35L

-       BMW 5 Series*, และรุ่นนำเข้า* : iPad Air 2 (64 GB WIFI + Cellular)

-       BMW 7 Series** และ BMW ActiveHybrid 7 L ทุกรุ่น : MacBook pro 13.3” 256 GB

-      X3 xDrive20i, X3 xDrive20d, X3 xDrive20d Highline : Cruise Bike BMW

 

(*ยกเว้นรุ่น BMW 3 Series Touring, BMW 5 Series Touring, BMW 2 Series, BMW 4 Series, BMW Z4, BMW X5) (**ยกเว้นรุ่น BMW 730Ld Business)

 

สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:

  • เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น จอง MINI ทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 และออกรถภายใน 30 เมษายน 2558 รับฟรี เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ® Dolce Gusto® รุ่น New MINI Limited Version มูลค่า 7,490 บาท
  • พร้อมเงื่อนไขพิเศษ อาทิเช่น ผ่อนเริ่มต้นที่ 11,500 บาท และ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี สำหรับ MINI Countryman

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ จาก BMW Financial Services และ MINI Financial Services สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800-269-269 ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269 หรือติดต่อได้ทีผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ 



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ WEEKLY  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 24 มี.ค 2558 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc