วันที่ 24 มีนาคม 2558 กรุงเทพฯ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก จะจัดแสดงสุดยอดผลงานของบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) ภายใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 ด้วยการเผยโฉมรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น ซึ่งเป็นการเปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในงานแสดงยนตรกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 โดยจะรถยนต์คอลเลคชั่นพิเศษนี้จะจัดแสดงร่วมกับโรลส์-รอยซ์รุ่น เรธ และรุ่น โกสต์ ซีรีส์ II ซึ่งในส่วนของรถยนต์ รุ่น โกสต์ ซีรีส์ II เพิ่งมีการเปิดตัวในประเทศไทยไปเมื่อไม่นานมานี้
ในช่วงเช้าของวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2480 นั้นเองที่เซอร์แคมป์เบลสร้างตำนานหน้าใหม่ด้วยการทำสถิติความเร็วระดับโลกที่ 203.31 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (126.33 ไมล์ต่อชั่วโมง) ณ ทะเลสาบมัจจอเรในอิตาลีด้วยเรือเร็ว Bluebird K3 ชื่อดังซึ่งใช้เครื่องยนต์ R-Type ของโรลส์-รอยซ์ และในวันถัดมาได้ทำความเร็วได้ดียิ่งขึ้นเป็น 208.41 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (129.5 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำลายสถิติความเร็วระดับโลกในการแข่งขันทางน้ำของแชมป์จากสหรัฐอเมริกาที่ครองบังลังก์แชมป์มาถึงห้าปีไปได้อย่างเด็ดขาด ความสำเร็จครั้งนั้นของ เซอร์แคมป์เบลดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วโลก และตอกย้ำอีกครั้งถึงความเหนือระดับของเครื่องยนต์ R-Type ของโรลส์-รอยซ์ที่สามารถล้มสถิติเก่า หลังจากคว้าชัยชนะทั้งบนพื้นดินและในอากาศมาแล้ว
เพื่อเป็นการฉลอง “ความกล้าหาญชาญชัย" ที่นำมาสู่ความสำเร็จในครั้งนั้น ฝ่ายบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) ของบริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ได้รังสรรค์รถยนต์ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่น แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษจำนวน 35 คัน โดยรถยนต์ที่ถูกจัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ เป็นยนตรกรรมพวงมาลัยซ้ายเพียงคันเดียว ณ วันนี้ ที่มีอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน)
รถยนต์รุ่น วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น นี้ใช้เฉพาะวัสดุร่วมสมัยคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ใช้ในเรือ K3 ด้วยโลหะขัดลายทำให้สี Maggiore Blue (ฟ้ามัจจอเร) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษมีความโดดเด่น ในขณะที่งานไม้ฝีมืออวดลวดลายของวีเนียร์ไม้อาบาชิ ชวนให้นึกถึงเรือที่แล่นเหนือสายน้ำอย่างง่ายดาย อีกทั้ง ลายเส้น coachline ด้านนอกตัวรถและภาพนกแกะสลักด้วยเลเซอร์ภายในรถนำเอา "Bluebird" ของเซอร์แคมป์เบลให้กลับมาโลดแล่นมีชีวิตอีกครั้ง
มร. พอล แฮริส ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าวว่า "คอลเลคชั่นพิเศษนี้จะนำเสนอลักษณะการสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ในแบบฉบับเฉพาะบุคคลของบริการบีสโป๊กที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าโรลส์-รอยซ์ทุกท่านผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของเรา และยังเน้นเสน่ห์ที่เป็นอมตะของรถยนต์แฟนธอมร ดรอปเฮด คูเป้ โดยในส่วนของรถยนต์ รุ่น โกสต์ ซีรีส์ II เองก็มีคุณลักษณะใหม่ๆ จากบริการบีสโป๊กเช่นกัน ซึ่งตอกย้ำคำพูดที่ว่า บีสโป๊ก คือวิถีแห่ง โรลส์-รอยซ์"
"เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นประเทศเจ้าภาพสำหรับการเปิดตัวรถยนต์ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำคัญของตลาดในประเทศไทย โดยโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยมีโชว์รูม 2 แห่งพร้อมให้บริการลูกค้าในการสั่งทำรถยนต์ในแบบเฉพาะตัวของตนเอง" นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวเสริม
รถยนต์โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น
รถยนต์แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น เป็นผลงานการออกแบบ และมีคุณลักษณะทางด้านวิศวกรรมจากบริการบีสโป๊ก ซึ่งทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อสรรเสริญเรือชื่อดังของเซอร์แคมป์เบล ในแบบร่วมสมัย สี Maggiore Blue (สีฟ้ามัจจอเร) ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้ดูเหมือนมีสายน้ำไหลไปทั่วพื้นผิวของวอเทอร์สปีด จากด้านนอกสู่ด้านใน มีการลงสีถึง 9 ชั้นก่อนจะเริ่มขั้นตอนขัดสีด้วยมือและ ลงแล็กเกอร์แบบผงอันทันสมัย เพื่อให้ได้สีภายนอกที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ และนี่นับเป็นครั้งแรกของโรลส์-รอยซ์ที่สีภายนอกจะครอบคลุมไปถึงเครื่องยนต์ เพื่อมอบภาพแห่งขุมพลังเบื้องหลังสถิติความเร็วของเซอร์แคมป์เบล อีกทั้ง ล้อแม็ค 11 ซี่แบบเคลือบเงาซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์คันนี้จะมอบความเรียบง่ายและโดดเด่น นอกจากนี้ ในส่วนของการตกแต่งภายนอกที่สมบูรณ์แบบด้วยลายเส้นด้านข้างรถ และสัญลักษณ์นกบลูเบิร์ดที่เป็นฝีมือการวาดด้วยมือของนักวาดลายเส้นของโรลส์-รอยซ์ที่ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการรังสรรค์
ส่วนท้ายที่เก็บหลังคาไม้สักแบบดั้งเดิมของรถยนต์ รุ่น แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ ถูกเปลี่ยนเป็นโลหะขัดลาย โดยวัสดุแต่ละชิ้นผ่านการตีขึ้นรูปด้วยมือเป็นเวลากว่า 70 ชั่วโมงและพ่นสีด้วยมืออีก 10 ชั่วโมง พื้นผิวด้านนอกของรถยนต์รุ่นนี้สะท้อนลักษณะเด่นที่เรียบง่ายจากแผงแดชบอร์ด ซึ่งรับกับสี "Windchill Grey" (สีเทาวินด์ชิลล์) ของการตกแต่งภายในด้วยหนังได้อย่างลงตัว การใส่ใจในรายละเอียดซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานเหนือระดับของแบรนด์ครอบคลุมไปถึงการใช้ฝาครอบที่วางแขนตรงประตูซึ่งสลักด้วยเลเซอร์เป็นรูปนกบลูเบิร์ดอันโด่งดังของเซอร์แคมป์เบลที่ได้รับการตีความใหม่นอกจากนี้ ยังมีการนำไม้อาบาชิมาใช้เป็นครั้งแรกกับโรลส์-รอยซ์ ในรถยนต์ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่นนี้ด้วย โดยธรรมชาติแล้ววัสดุนี้มอบผิวสัมผัสที่น่าทึ่ง พร้อมความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับผ้าซาติน อีกทั้ง ผ่านการใช้เทคนิค bookmatch เพื่อให้ลายไม้เปรียบเสมือนร่องรอยทางน้ำของเรือที่แล่นผ่านไปด้วยความเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีการอ้างอิงถึงเรือของเซอร์แคมป์เบลผ่านการตีความใหม่ของ "เข็มมาตรวัดความเร็ว" อันขึ้นชื่อ เมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง เข็มจะเลื่อนถอยหลังไปยังโซนสีเหลืองและสีฟ้า เพื่อสะท้อนการ "แล่นไปไกลลิ่ว" ของเรือ K3 เดิมของเซอร์แคมป์เบลที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงสุด นาฬิกาแบบบีสโป๊กตกแต่งด้วยสัญลักษณ์รูปอินฟินิตีของ Bluebird และเข็มที่ตัดจากท่อนอะลูมิเนียมชวนให้นึกถึง K3 มากขึ้น
การสรรเสริญสถิติความเร็วของเซอร์แคมป์เบลโดยตรงแสดงให้เห็นที่บริเวณช่องเก็บของด้านหน้ารถ ซึ่งมีการปั๊มสถิติความเร็วที่เซอร์แคมป์เบลทำไว้ ณ ทะเลสาบมัจจอเรและน่านน้ำ Coniston Water ไว้บริเวณประตูช่องเก็บของ ท้ายที่สุด พวงมาลัยได้รับการนำเสนอในสีทูโทนเป็นครั้งแรก โดยการเน้นสี "Magiorre Blue" (สีฟ้า มัจจอเร) ซึ่งผสานกับหนังสีดำแบบดั้งเดิมอย่างลงตัว เพื่อเติมเต็มชุดสีสำหรับการออกแบบภายในได้อย่างงดงาม
มร. โดนัลด์ เวลส์ หลานชายของเซอร์มัลคอล์ม แคมป์เบล กล่าวว่า "รถยนต์สุดพิเศษคันนี้เป็นการระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญชาญชัยของคุณปู่ตามแบบฉบับของชาวอังกฤษได้อย่างสมศักดิ์ศรี การใส่ใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ และความมุ่งมั่นต่อความเป็นเลิศในระบบวิศวกรรมสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนในรถยนต์รุ่นนี้ และสะท้อนให้เห็นว่าคุณปู่และบรรดาเพื่อนร่วมงานของท่านมุมานะเพียงใดในการสร้างสถิติความเร็วบนสายน้ำ"