จำนวนผู้เข้าชม : 299 ครั้ง
End Page
 
 
ขนส่งทางบก แจง ใบอนุญาตขับรถ ที่ถูกเรียกเก็บ/ยึดไว้โดยเจ้าพนักงานยังคงมีผลตามกฎหมาย

กรมการขนส่งทางบก แจง ใบอนุญาตขับรถ ที่ถูกเรียกเก็บ/ยึดไว้โดยเจ้าพนักงาน ยังคงมีผลตามกฎหมาย ต้องดำเนินการชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด ย้ำผลการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่น ดีแอลที เช็ก อิน ในรอบ 2 เดือน มีการส่งข้อเสนอในการพัฒนาคุณภาพบริการรถแท็กซี่ 2,653 ครั้ง

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ผู้ที่ถูกเรียกเก็บหรือยึดใบอนุญาตขับรถจะไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถคืน ต้องดำเนินการขอใบอนุญาตขับรถใหม่เท่านั้น ซึ่งไม่เป็นความจริงการที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการจราจรทางบกแล้วถูกเรียกเก็บ/ยึดใบอนุญาตขับรถโดยเจ้าพนักงานนั้น ใบอนุญาตขับรถที่ถูกเรียกเก็บยังคงมีผลตามกฎหมาย เจ้าของบัตรต้องดำเนินการติดต่อชำระค่าปรับกับเจ้าพนักงานให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตขับรถฉบับจริงคืน โดยเจ้าพนักงานจะออกใบแทนใบอนุญาตขับรถไว้ให้เป็นการชั่วคราว ซึ่งสามารถใช้แทนใบอนุญาตขับรถฉบับจริงได้ไม่เกิน 7 วันเท่านั้น ดังนั้น หากถูกเรียกเก็บ/ยึดใบอนุญาตขับรถต้องรีบติดต่อเจ้าพนักงานเพื่อขอรับคืนโดยเร็ว ทั้งนี้

หากพบว่าผู้ถูกเรียกเก็บ/ยึดใบอนุญาตเพิกเฉยต่อการแก้ไขดังกล่าว ทั้งยังมีการแจ้งความเท็จว่าใบอนุญาตขับรถสูญหายเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถฉบับใหม่กับกรมการขนส่งทางบกจะถือว่าเป็นการกระท าที่ผิดกฎหมายฐานแจ้งความเท็จ และกรมการขนส่งทางบกจะไม่ออกใบอนุญาตขับรถให้ใหม่สำหรับกรณีดังกล่าวโดยเด็ดขาด

นายธีระพงษ์กล่าวต่อไปว่า การเรียกเก็บ/ยึดใบอนุญาตขับรถโดยเจ้าพนักงานนั้น เป็นคนละกรณีกับการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถโดยนายทะเบียน ตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการพิจารณาการออกใบอนุญาตขับรถสำหรับผู้ที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ พ.ศ.2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 เป็นต้นไป โดยสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 สามารถขอรับใบอนุญาตขับรถฉบับใหม่ได้แต่ต้องหลังจากพ้นกำหนด 3 ปีไปแล้วนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และจะต้องเข้าสู่กระบวนการเหมือนผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถรายใหม่ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาต กล่าวคือ ต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย อบรมภาคทฤษฎี 4 ชั่วโมง ทดสอบขับรถ และที่สำคัญต้องผ่านการอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมสร้างจิตสำนึกและปรับพฤติกรรมการขับรถอีก 3 ชั่วโมง โดยจะได้รับใบอนุญาตขับรถประเภทชั่วคราวเช่นเดียวกับผู้ขอรายใหม่นั่นเอง

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผลการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่น ดีแอลที เช็ก อิน ในรอบ 2 เดือน มีการส่งข้อเสนอในการพัฒนาคุณภาพบริการรถแท็กซี่ 2,653 ครั้ง แบ่งเป็นการแสดงความพึงพอใจคุณภาพ 543 ครั้ง ข้อเสนอการพัฒนาคุณภาพแท็กซี่ไทย 1,124 ครั้ง และการร้องเรียนปัญหา 986 ครั้ง โดยปัญหาที่ร้องเรียนมากสุด ได้แก่ การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ ใช้มิเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ขับรถประมาทหวาดเสียว รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับสภาพตัวรถ กลิ่นภายในรถ แอร์ไม่เย็น

สำหรับ ช่วงเวลาที่มีการใช้บริการเช็กอินมากที่สุด ช่วง 15.00-18.00 น. ซึ่งจากข้อมูลการเช็กอินพบว่าปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารสูงสุดอยู่บริเวณถนน สุขุมวิท สีลม สาทร และพญาไท ซึ่งจากข้อมูลนี้กรมฯนำมาพิจารณาจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ กวดขันการให้บริการรถแท็กซี่ในพื้นที่และช่วงเวลาที่เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการเชื่อมโยงหมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่จากการเช็คอินเข้า กับฐานข้อมูลทางทะเบียน และการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1584 ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อใช้ลงโทษผู้กระทำความผิดด้วย



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ WEEKLY  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 12 พ.ค. 2558 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc