โตโยต้ามั่นใจเศรษฐกิจไทย เชื่อตลาดรถยนต์ฟื้นใน 3 ปีข้างหน้า ย้ำยอดขายปีนี้ไม่ถึง 8 แสนคัน พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ระบุไทยขึ้นแท่นฐานผลิตสำคัญของภูมิภาค เดินหน้าลุยอีโคคาร์เฟสสอง

นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์เซลส์ / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท

โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึง สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2558 ว่า เป็นปีที่ยากลำบากคาดว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะไม่เกิน 800,000 คัน โดยโตโยต้าจะทำได้ 280,000 คัน จากเป้าเมื่อต้นปี 330,000 คัน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อครึ่งปีแรกที่ยอดหดหาย กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง รวมทั้งเศรษฐกิจผันผวน ครึ่งปีแรกทำได้เพียง 369,125 คัน ลดลงไปถึง 16.3% ขณะที่โตโยต้าทำได้แค่ 123,125 คัน ส่งออก 163,403 คัน

ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่โตโยต้ายังยืนยันว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของโตโยต้าและเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคแห่งที่ 2 โดยบริษัทพร้อมสนับสนุนให้คนไทยเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นด้วย

"ตอนนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องส่วนแบ่งทางการตลาด เพราะขณะนี้เรายังไม่เห็นความชัดเจน หากตลาดหดตัวลงไปต่ำกว่า 8 แสนคัน แต่สิ่งสำคัญของโตโยต้า คือการเดินหน้ารักษาเป้าหมายที่ 2.8 แสนคันให้ได้ ซึ่งหากเราทำได้ในขณะที่ตลาดมียอดขายลดลงนั้นหมายความว่า เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นนั่นเอง" และหากมองไปในอนาคต โตโยต้าเชื่อว่ายอดขายของปี 2559 นั้นจะต้องมีสถานการณ์ที่ดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน

"เราหวังว่าตลาดปีนี้จะถึง 8 แสนคัน ส่วนจะให้ตลาดฟื้นคืนกลับมาคงต้องใช้เวลา 2-3 ปี สิ่งสำคัญในวันนี้คือ การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบผ่านโครงการต่าง ๆ"

นายทานาดะกล่าวถึงโครงการรถคันแรก ที่รัฐพร้อมร่นระยะเวลาการถือครองจาก 5 ปีมาเป็น 3 ปี นั้นไม่มีประโยชน์ เพราะส่วนใหญ่คนซื้อรถคันแรกก็มีศักยภาพการผ่อนชำระ 4-5 ปีอยู่แล้ว ซึ่งระยะเวลาที่เหลือโตโยต้าเตรียมนำเสนอ อีโคคาร์เฟสสองออกสู่ตลาด ซึ่งจะสอดคล้องกับระยะเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขการถือครองรถคันแรกในอีก 2-3 ปีข้างหน้าพอดี

"เราอยากให้รัฐบาลเดินหน้าการใช้เงินในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ เพื่อกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงที่เหลือของปี มากกว่าการลดภาระการถือครองรถคันแรกเหลือ 3 ปี ซึ่งโตโยต้าพร้อมเดินหน้าตามข้อกำหนดของรัฐบาลทุกอย่าง หากแต่อยากเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม"

ส่วนความกังวลยอดผลิตอีโคคาร์ให้ครบจำนวน 100,000 คันภายใน 5 ปีนั้น โตโยต้ามั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเงื่อนไขได้แน่นอน เพราะวันนี้แม้ว่า ตลาดโดยรวมยอดขายจะลดลง แต่การตอบรับของรถยนต์ยาริส อีโคคาร์ ยังไปได้ดี และในอนาคตโตโยต้า พร้อมจะแนะนำอีโคคาร์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด