จำนวนผู้เข้าชม : 190 ครั้ง
End Page
 
 
โรลส์-รอยซ์ เตรียมเปิดตัว ดอว์น แบล็กแบดจ์ เปิดประทุนสุดหรู

โรลส์-รอยซ์ เตรียมเปิดตัวยนตกรรมหรูรุ่นใหม่ล่าสุด ดอว์น แบล็กแบดจ์ (Dawn Black Badge) รถยนต์เปิดประทุนอันหรูหราไร้ที่ติหนึ่งเดียวในโลก ในงาน Goodwood Festival of Speed 2017




โรลส์-รอยซ์ ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของโลกยนตกรรมระดับลักชัวรี่ไปอย่างสิ้นเชิง ในงานเจนีวา มอเตอร์ โชว์ 2016 ที่ผ่านมา ด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นสั่งผลิตพิเศษตระกูล แบล็ก แบดจ์ (Black Badge) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักขับรุ่นใหม่ผู้มีรสนิยมที่หรูหราเหนือระดับ ชื่นชอบความโฉบเฉี่ยวเร้าใจ และมีไลฟ์สไตล์ในแบบเฉพาะตัว
นับตั้งแต่เปิดตัว แบล็ก แบดจ์สามารถดึงดูดผู้บริโภคระดับสูงรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก และจากความสำเร็จอันงดงามของยนตกรรม โกสต์ แบล็ก แบดจ์ และ เรธ แบล็ก แบดจ์ บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ แบล็ก แบดจ์ จะก้าวไปอีกขั้นเพื่อสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในโลกยานยนต์ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา แบล็ก แบดจ์ กลายเป็นรถยนต์ซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกยานยนต์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ด้วยระบบวิศวกรรมและการออกแบบที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคระดับสูงที่ปรารถนา “รถยนต์โรลส์-รอยซ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร” เท่านั้น
ระบบวิศวกรรมของ ดอว์น มีความเป็นเลิศอย่างมากเช่นเดียวกับยานยนต์ 2 รุ่นก่อนคือ โกสต์ และ เรธ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานขั้นสูงสุดของ แบล็ก แบดจ์ โดย ดอว์น นำเสนอระบบขับเคลื่อนที่นำนักขับไปสัมผัสกับจิตวิญญาณแห่งการพุ่งทะยานที่แท้จริง ด้วยการติดตั้งระบบท่อไอเสียที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดและสามารถใช้งานได้เพียงการกดปุ่มเดียวเท่านั้น ซึ่งจะส่งเสียงกระหึ่มอันน่าเกรงขามจากเครื่องยนต์ v12 อันทรงพลังที่ให้เสียงคำรามแบบเบสบาร์ริโทน ซึ่งมิใช่แค่การเรียกร้องความสนใจ หากสื่อถึงการมาเยือนของผู้ทรงอำนาจที่แท้จริง




เสียงคำรามของระบบท่อไอเสียนี้ได้สร้างมิติแห่งเสียงรูปแบบใหม่สู่ความล้ำหน้าทางวิศวกรรมยานยนต์ เนื่องจากรถยนต์ แบล็ก แบดจ์ คือการผสมผสานการออกแบบและระบบวิศวกรรมแบบสั่งผลิตพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักขับรุ่นใหม่ที่ต้องการมากกว่าความหรูหราเฉพาะตัว แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การขับขี่ระดับคุณภาพที่ไร้คู่แข่งที่ทำให้ ดอว์น สามารถนำพาผู้ขับไปสู่ความสำเร็จในทุกเส้นทาง ด้วยเหตุนี้ ทีมวิศวกรจึงเลือกใช้เครื่องยนต์ v12 แบบทวินเทอร์โบ 6.6 ลิตร ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ขึ้นไปอีก 30 แรงม้า ทำให้ ดอว์น สามารถเพิ่มพลังจาก 563 แรงม้าเป็น 593 แรงม้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ ระบบเกียร์แบบ Infinite Gear ชั้นเลิศยังได้รับการอัพเกรด โดยเพิ่มแรงบิดอีก 20 นิวตันเมตรที่ 1,500 รอบต่อนาที ทำให้ ดอว์น แบล็ก แบดจ์ มีแรงบิดสูงสุดถึง 840 นิวตันเมตร 




ในส่วนของระบบส่งกำลังและวาล์วได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ ดอว์น สามารถพุ่งทะยานได้อย่างฉับพลันโดยไม่ลดทอนความหรูหราของความเป็นรถเปิดประทุนระดับหรูของโลกลงแม้แต่น้อย รวมถึงการผสานการทำงานของกระปุกเกียร์ 8 สปีดรุ่น ZF เข้ากับแรคพวงมาลัย ให้สัมพันธ์กับระบบวาล์วและองศาการหมุนพวงมาลัยอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ได้รูปแบบการขับขี่ที่เพลิดเพลิน ทั้งในยามขับขี่ความเร็วต่ำและการออกตัวโลดแล่นไปด้วยความเร็วสูง การพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงอันทรงพลังของ ดอว์น แบล็ก แบดจ์ ยังทำให้เกิดการพัฒนาระบบเบรกใหม่โดยเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของจานเบรกอีก 1 นิ้ว ซึ่งในระหว่างลดความเร็ว การคำนวณขั้นพื้นฐานของระบบส่งกำลังเครื่องจะลดรอบการหมุนเครื่องยนต์ลงก่อนการเบรก ทำให้สามารถเบรกรถได้อย่างราบลื่นและแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แรคพวงมาลัยมีการปรับแต่งให้มีความไวและตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งระบบการปรับค่าการทำงานของรถยนต์ที่แปรผันตามความเร็วจะช่วยให้นักขับ แบล็ก แบดจ์ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกปลอดภัย โดยการบังคับพวงมาลัยจะมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงมาก ดอว์น แบล็ก แบดจ์ ดำเนินการผลิตตามคำสั่งผลิตของลูกค้าเฉพาะรายเท่านั้น











ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : รถweekly  
 ผู้บันทึก :
date : [ 07 ก.ค. 2560 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc